เช็กลิสต์ 'ของต้องมีติดบ้าน' ในภาวะฉุกเฉิน หลังภัยพิบัติ พ.ศ.นี้ รุนแรงนัก!
โพสต์ทูเดย์พาเก็บลิสต์ 'อุปกรณ์ช่วยให้รอด' และ 'ของต้องมีติดบ้าน' เผื่อในภาวะฉุกเฉิน หลังภัยพิบัติทางธรรมชาติ พ.ศ.นี้ รุนแรงกว่าที่คิด ต้องมีอะไรบ้าง?
เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติประเภทใด การมีอุปกรณ์พื้นฐานเช่น อาหาร, น้ำ, ยา และสิ่งจำเป็นในกรณีฉุกเฉินถือเป็นสิ่งสำคัญ การรอคอยเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ให้ความช่วยเหลือเข้ามาช่วยเหลือหลังจากเกิดภัยพิบัติเพียงอย่างเดียว เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง! เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในทุกพื้นที่ และไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้ในทันที บางคนต้องรอหลายชั่วโมงหรือแม้กระทั่งหลายวัน โดยเฉพาะหลังจากการเกิดภัยพิบัติใหญ่ที่มีการประเมินว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน
จากข้อมูลของ สภากาชาดสหรัฐอเมริกา (American Red Cross) ได้ระบุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในภาวะฉุกเฉิน หรือเหมาะสมสำหรับการอพยพ ในกรณีที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ดังนี้
อุปกรณ์พื้นฐานต้องมีติดบ้าน!
- น้ำ ปริมาณ 1 แกลลอนต่อคนต่อวัน (สำหรับ 3 วันในกรณีอพยพ และ 2 สัปดาห์ในกรณีที่อยู่บ้าน)
- อาหารที่เก็บได้นานและพร้อมรับประทาน (สำหรับ 3 วันในกรณีอพยพ และ 2 สัปดาห์ในกรณีที่อยู่บ้าน)
- ไฟฉาย
- วิทยุแบบใช้แบตเตอรี่หรือมือหมุน
- แบตเตอรี่สำรอง / ถ่านไฟฉาย
- ชุดปฐมพยาบาล
- ยาที่จำเป็นสำหรับ 7 วัน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น
- เครื่องมืออเนกประสงค์แบบพกพา
- อุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดส่วนตัว
- สำเนาเอกสารส่วนตัว ( รายการยาและข้อมูลทางการแพทย์ที่สำคัญ, หลักฐานที่อยู่, โฉนด/สัญญาเช่าบ้าน, หนังสือเดินทาง, สูติบัตร, กรมธรรม์ประกันภัย)
- โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ชาร์จ
- ข้อมูลติดต่อฉุกเฉินและข้อมูลครอบครัว ( ให้เผื่อกรณีที่โทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อได้)
- เงินสดสำรอง
- ผ้าห่มฉุกเฉิน
- แผนที่ของพื้นที่
เมื่อเตรียมสิ่งของพื้นฐานแล้ว สิ่งที่ควรคิดเพิ่มตามมาคือ ของใช้จำเป็นสำหรับสมาชิกแต่ละคน เช่น
- อุปกรณ์ทางการแพทย์ (เครื่องช่วยฟังพร้อมแบตเตอรี่สำรอง, แว่นตา, คอนแทคเลนส์, เข็มฉีดยา ฯลฯ)
- อุปกรณ์สำหรับเด็กทารก กรณีที่มีสมาชิกเป็นทารกและเด็ก (ขวดนม, นมผง, อาหารสำหรับเด็ก, ผ้าอ้อม)
- เกมและกิจกรรมสำหรับเด็ก
- อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง (ปลอกคอ, สายจูง, บัตรประจำตัว, อาหาร, กระเป๋าหิ้ว, ชามอาหาร)
- วิทยุสื่อสารสองทาง
- กุญแจสำรองของรถยนต์และบ้าน
นอกจากนี้ ยังต้องคิดเผื่อในกรณีที่ภัยพิบัติต่างประเภทกัน ก็อาจจะพิจารณาหาอุปกรณ์เพิ่มเติม อาทิ
- นกหวีด
- หน้ากาก N95 หรือหน้ากากทางการแพทย์
- ไม้ขีดไฟ
- เสื้อกันฝน
- ผ้าขนหนู
- ถุงมือทำงาน
- เครื่องมือ/อุปกรณ์สำหรับการป้องกันบ้าน
- เสื้อผ้า, หมวก, และรองเท้าที่ทนทาน
- แผ่นพลาสติก
- เทปกาว
- กรรไกร
- น้ำยาฟอกขาวสำหรับใช้ในบ้าน
- ผ้าห่มหรือถุงนอน
นอกจากนี้ การดูแลรักษาอุปกรณ์ยามฉุกเฉินก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน โดยมีเคล็ดลับง่ายๆ ได้แก่
- เก็บอาหารกระป๋องในที่แห้งและอุณหภูมิที่เย็น
- เก็บอาหารที่เป็นกล่องในภาชนะพลาสติกหรือโลหะที่ปิดสนิทเพื่อป้องกันศัตรูพืชและยืดอายุการเก็บ
- ทิ้งอาหารกระป๋องที่บวม, บุบ, หรือมีสนิม
- ใช้อาหารก่อนที่จะหมดอายุ และเปลี่ยนเป็นอาหารใหม่ที่สด
- วางสิ่งของใหม่ไว้ที่ด้านหลังของพื้นที่จัดเก็บ และเก็บสิ่งของเก่าไว้ที่ด้านหน้า
- เปลี่ยนอาหารและน้ำที่เก็บไว้ทุกๆ หกเดือน และอย่าลืมเขียนวันที่ที่เก็บไว้บนภาชนะทุกชิ้น
- ทบทวนความต้องการทุกปีและอัปเดตชุดอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับความต้องการที่เปลี่ยนไป
- เก็บสิ่งของในถุงพลาสติกที่ปิดสนิทและใส่ชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินทั้งหมดในภาชนะที่สะดวกต่อการพกพา เช่น ถังขยะที่ยังไม่ใช้, กระเป๋าเดินทาง เป็นต้น