กสทช.เร่งออกประกาศลงทะเบียนซิมผ่านไบโอเมตริกซ์ ปีนี้
กสทช.หารือ ตำรวจ ปปง. Set Zero ส่ง SMS แนบลิ้งค์ 1 ก.พ.68 สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เร่งรัดระบบลงทะเบียนซิมด้วยไบโอเมตริกซ์ คาดประกาศใช้ภายใน 3-6 เดือน
พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ เปิดเผยว่า กสทช. หารือ ตำรวจ และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เร่งรัดระบบลงทะเบียนซิมด้วยไบโอเมตริกซ์ และ Set Zero การส่ง SMS แนบลิ้งค์ พร้อมออกมาตรการสำคัญสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้จะเร่งเสนอร่างฯ เกี่ยวกับใช้แบบไบโอเมตริกซ์ เข้าประชุมบอร์ดให้ทัน 22 ม.ค.นี้ หากบอร์ดเห็นชอบจะนำไปประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อนำมาปรับให้สมบูรณ์ จากนั้นจะนำกลับมาเสนอบอร์ดเห็นชอบอีกครั้ง โดยจะเร่งให้สามารถออกมาประกาศใช้ให้ทันภายใน 3-6 เดือน
สำหรับมาตรการเร่งด่วนที่หารือร่วมกัน ประกอบด้วย การนำระบบยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์ มาใช้ในการลงทะเบียนซิมการ์ด เพื่อคัดกรองและลดการปลอมแปลงข้อมูล,การจำกัดการลงทะเบียนซิมชาวต่างชาติได้ไม่เกินสามซิม/คน/ค่าย และให้ใช้ passport ลงทะเบียนเท่านั้น และการSet Zero ระบบ SMS แนบลิงค์ ให้ผู้ประกอบการทุกรายลงทะเบียนใหม่ และส่งลิงค์มาให้ตรวจก่อนส่ง เริ่มวันที่ 1 ก.พ 2568
นอกจากนั้น ยังได้หารือมาตรการเสริมอื่นๆ เช่น กำหนดให้แสดงชื่อผู้โทรเข้าแทนเลขหมาย (Caller ID) และ การกำหนดให้ระบบ Mobile Banking ต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากซิมการ์ดเท่านั้น เมื่อต้องการโอนเงินจำนวนมากๆ
พล.ต.อ.ณัฐธรฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ กสทช. ร่วมกับ ตำรวจ ตรวจยึด Simbox และ ซิมการ์ดจำนวนมาก เมื่อทำการตรวจสอบพบว่าซิมการ์ดเหล่านี้ส่วนใหญ่ลงทะเบียนโดยคนต่างชาติ ด้วยเอกสารแสดงตนปลอม หรือใช้ภาพบุคคลอื่น ในที่ประชุมวันนี้ได้หารือเพื่อเสนอออกประกาศ กสทช. ให้ใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) หรือข้อมูลชีวภาพ และจำกัดการลงทะเบียนซิมของแรงงานสามสัญชาติได้ไม่เกินสามซิม/คน/ค่าย โดยต้องใช้ passport ลงทะเบียนเท่านั้น รวมทั้ง Set Zero ระบบการส่ง SMS แนบลิงค์ โดยให้ผู้ประกอบการทั้งหมดลงทะเบียนใหม่และส่งลิ้งค์ให้ตรวจสอบก่อนส่ง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือมาตรการสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สำคัญอื่นๆ อาทิเช่น การแสดงชื่อผู้โทรเข้า และการใช้เน็ตจากซิมในการโอนเงินจำนวนมากๆ มาตรการเหล่านี้จะทำให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทำงานได้ง่ายขึ้น ขณะที่กลุ่มมิจฉาชีพก็จะก่ออาชญากรรมลำบาก
พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เสนอมาตรการ Caller ID ระบบจะแสดงชื่อผู้โทรเข้า เพื่อให้ผู้รับสายปลายทางทราบ ซึ่งจะทำให้มิจฉาชีพโทรหลอกลวงประชาชนได้ยากขึ้น โดยได้หารือผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ถึงแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม ในส่วนของการปราบปรามซิมผีนั้น ตนได้สั่งการไปยังหน่วยในสังกัดตำรวจให้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ กสทช. ในการกวดขันจับกุมดีลเลอร์ที่ไม่ปฎิบัติตามระเบียบในการลงทะเบียนซิมการ์ด เพื่อปิดช่องโหว่ในการลงทะเบียนซิมการ์ดอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตาม พรก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ มาตรา 9 และ 11 มีทั้งโทษทั้งจำคุกและโทษปรับ
อนึ่ง การบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กสทช., ปปง., และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนี้ เป็นการขานรับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเร่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และป้องกันปัญหาเพื่อมิให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อในการหลอกลวงทางออนไลน์
พล.ต.ต. เอกรักษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง ปปง. ได้เสนอมาตรการ Mobile Banking โดยกำหนดให้การโอนเงินจำนวนมากๆ เช่น จำนวน 50,000 บาทขึ้นไป ต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากซิมการ์ด โดยจะต้องทำควบคู่กับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า ซึ่งจะทำให้การโอนเงินของกลุ่มมิจฉาชีพทำงานได้ยากขึ้น