‘อินเซล’ เบื้องหลังเหตุฆาตกรรมของ ‘เด็ก’ ที่ผู้ใหญ่ไม่ ‘เท่าทัน’

27 มีนาคม 2568

พารู้จักแนวคิด 'อินเซล' ที่ถูกพูดถึงในซีรีส์ดัง Adolescence เมื่อ 'เด็ก' ทุกวันนี้ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูจากแค่พ่อแม่ และโรงเรียนอีกต่อไป จนกลายเป็นเหตุ 'ฆาตกรรม'

ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาคอซีรีส์ต่างยกนิ้วให้กับซีรีส์สัญชาติอังกฤษมาแรงอย่าง Adolescence ที่เหนือกว่าเทคนิคถ่ายทำแบบ Long Take หมายถึง ถ่ายเทคเดียวทั้งตอนความยาวประมาณ 1 ชั่วโมงโดยไม่มีการสั่ง ‘คัท’ จากผู้กำกับแล้ว คือ ‘เมสเสจ’ ที่ถ่ายทอดออกมาซึ่งมีความร่วมสมัย และหากไม่ดูก็คงตกยุคได้

Adolescence วัยลน คนอันตรายเล่าเรื่องราวของ ‘เจมี มิลเลอร์’ (โอเวน คูเปอร์)  เด็กหนุ่มวัย 13 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมเพื่อน ‘ผู้หญิง’ ร่วมชั้น บนพื้นฐานความคิดของผู้กำกับและทีมงานที่อยากจะนำเสนอในมุมที่ว่า ‘อะไรอยู่เบื้องหลังเหตุสลดนี้’

 

‘อินเซล’ เบื้องหลังเหตุฆาตกรรมของ ‘เด็ก’ ที่ผู้ใหญ่ไม่ ‘เท่าทัน’

 

(ต่อไปนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางประการ)

 

หากเป็นผู้ใหญ่ที่โตมาใน Gen Y ขึ้นไป ตอนที่นั่งลงบนโซฟา และเริ่มดูซีรีส์ ก็จะเริ่มเดาไปต่างๆ นานา

‘ไม่มีทางที่เด็ก ซึ่งดูไม่มีพิษมีภัย จะทำอะไรแบบนี้ได้ มันต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังเป็นแน่’ และเริ่มอินเข้ากับตัวหนัง ซึ่งดำเนินไปด้วยไดอะล็อกที่น่าสนใจ จนบางทีก็ลืมไปว่า นี่ซีรีส์ยังไม่คัทเลยสักฉาก! เพราะหากใครชินกับการเสพย์ซีรีส์หรือหนังทางฝั่งยุโรป จะพบว่าจังหวะการเล่าก็จะประมาณนี้! ซึ่งเทคนิคไม่ได้ทำให้การดูสะดุดเลยแม้แต่น้อย

ในตอนแรกของซีรีส์ ทำหน้าที่เห็นคล้อยกับความสงสัยของสังคม ที่ ‘เคยชิน’ เช่นนั้นมาโดยตลอด  แต่แล้วซีรีส์ก็ตะโกนใส่หน้าดังๆ ว่า

‘เด็กทำ’

จะเฉลยอย่างไรต้องไปดูเองในเรื่อง แต่การเฉลยนั้นนำเราไปสู่การตั้งคำถามที่มากขึ้นได้อย่างดี

‘เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้?’

 

‘อินเซล’ เบื้องหลังเหตุฆาตกรรมของ ‘เด็ก’ ที่ผู้ใหญ่ไม่ ‘เท่าทัน’

 

และในตอนที่ 2 ของเรื่องนี้เองจึงทำให้เรารู้จักกับคำว่า ‘Incel’ หรือ อินเซล

 

อินเซล โสดไม่ตั้งใจ แล้วไงถึงฆ่า?

การอธิบายอิโมจิที่เด็กส่งให้กัน สร้างความพิศวงให้กับคนดูเจน Y อย่างคนเขียนไม่น้อย แต่ไม่เท่ากับคำว่า Incel ซึ่งพบว่าจริงๆ มีมานมนานตั้งแต่ก่อนปี 2014 และแพร่หลายในต่างประเทศและในหมู่นักเรียนโรงเรียนอินเตอร์ในไทย

อินเซล ย่อมาจาก Involuntary Celibate แปลว่า บุคคลที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศหรือโรแมนติกได้ตามที่ต้องการ สั้นๆ คือ โสดโดยที่ไม่สมัครใจ

คำนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1990 โดยผู้หญิงคนหนึ่งในแคนาดาชื่อว่า Alana’s Involuntary Celibacy Project เพื่อให้คนที่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ได้คุยกันออนไลน์ เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้แก่คนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านความรัก

 

แต่แล้วกลับมีการใช้คำว่า Incel ในทางลบหลังจากนั้น

 

ปัญหามันอยู่ตรงนี้คือ อินเซล ถูกใช้พูดถึงกลุ่มผู้ชายที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม โดยเชื่อว่าเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ที่พวกเขาไม่สามารถคอนโทรลได้ เช่น รูปร่างหน้าตา ฐานะทางสังคม

คนกลุ่มนี้ ที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามมาก่อน พวกเขาโทษว่าสาเหตุที่ตัวเองไม่สามารถมีความสัมพันธ์ได้ เพราะผู้หญิงเลือกผู้ชายที่หน้าตาดีและฐานะดี และให้คุณค่ากับรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่าภายใน  และสุดท้ายพวกเขามองว่าผู้หญิงเป็นต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถมีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามได้

 

มันจะไม่มีปัญหาเลย หากเป็นแค่ข้อถกเถียง แต่แล้วความรุนแรงก็เพิ่มขึ้น!

 

‘พวกเราคิดว่าเขาจะปลอดภัยหลังประตูห้องนอนนั่น' นั่นคือประโยคในซีรีส์ ที่แสดงให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างวัย ที่มีผลต่อการเลี้ยงดู ในขณะที่คนในเจน Y มองว่าการจะออกไปทำอะไรผิดๆ ลูกจะต้องดูเหมือนคนติดยา ออกไปเล่นพนัน ไปเสเพลข้างนอก ไม่มีทางที่คนที่เรียนเก่ง กลับบ้านตรงเวลา และอยู่ในห้องนอนอย่างเงียบเชียบ จะไปทำอะไรเหล่านี้ได้

 

แต่สิ่งที่พวกเขาลืมไปคืออันตรายของ ‘โลกออนไลน์’ ที่ผู้ใหญ่เข้าไม่ถึง

 

ในชุมชนออนไลน์ทุกวันนี้ มีฟอรัมและกลุ่มลับที่สนับสนุนแนวคิด Incel แบบสุดโต่ง ในเว็บไซต์ต่างๆ พวกเขาไม่ได้ถกเถียงแค่ปัญหาความสัมพันธ์ แต่พวกเขาไปถึงขั้น เกลียดชังผู้หญิง และมองว่าผู้ชายนั้นก็ถูกกดขี่โดยโครงสร้างทางสังคมเช่นกัน  อาทิ

  • มองว่า ‘ผู้หญิงมีอำนาจในการเลือกคู่มากเกินไป’ และเลือกเฉพาะผู้ชายที่หล่อ รวย ผู้หญิงตั้งมาตรฐานสูงเกิน และกดขี่ผู้ชายที่หน้าตาธรรมดาหรือด้อยกว่า
  • มองว่า สังคมให้ความสำคัญกับความรู้สึกของ ‘ผู้หญิง’ มากเกินไป มีกฎปกป้องผู้หญิงสารพัด และแนวคิดสตรีนิยมทำให้ผู้หญิงมีอำนาจมากขึ้น
  • เชื่อว่า กฎหมายและบรรทัดฐานหลายอย่าง ปกป้องผู้หญิง เช่น การฟ้องร้องคดีล่วงละเมิดทางเพศ หรือระบบหย่าร้างที่ให้สิทธิเลี้ยงดูแก่แม่มากกว่า

 

‘อินเซล’ เบื้องหลังเหตุฆาตกรรมของ ‘เด็ก’ ที่ผู้ใหญ่ไม่ ‘เท่าทัน’

 

ความไม่พอใจดังกล่าว ‘ปะทุ’ ขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2014 ก็ทำให้โลกใบนี้เข้าใจถึงความผิดปกติของคำนี้แนวคิดดังกล่าวชัดเจนขึ้น!

เมื่อ Elliot Rodger เด็กวัย 14 ปี ก่อเหตุยิงและแทงคนที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ก่อนจะจบชีวิตตัวเอง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คนและบาดเจ็บ 14 คน เขาได้โพสต์วิดิโอและเขียน Incel Manifesto ก่อนหน้าการก่อเหตุ โดยแสดงให้เห็นถึงความเกลียดชังผู้หญิงและสังคม เขารู้สึกแปลกแยก ถูกปฏิเสธ และต้องการแก้แค้น เขาระบุว่าผู้หญิงมักเลือกผู้ชายที่หล่อ รวย มีเสน่ห์ และมองข้ามเขา  และแม้ว่าแม่จะเคยสังเกตพฤติกรรมที่เป็นภัย แต่ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีภัยอันตราย

 

Eliiot กลายเป็นไอคอนของกลุ่ม Incel

หลังจากนั้น ในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องระบุและยกย่องเขาว่าเป็น ‘Saint Elliot’

 

การกระทำของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Incel คนอื่นๆ ออกมาก่อเหตุรุนแรง เช่น Alek Minassian ที่ขับรถชนคนเสียชีวิต 10 คนในปี 2018 และในปีเดียวกัน Scott Beierle ยิงคนในสตูดิโอโยคะ เนื่องจากแนวคิดดังกล่าว

 

‘อินเซล’ เบื้องหลังเหตุฆาตกรรมของ ‘เด็ก’ ที่ผู้ใหญ่ไม่ ‘เท่าทัน’

 

แนวคิดนี้จึงเป็นที่มาของซีรีส์ Adolescence ฉากสุดท้ายที่พ่อแม่ปรับทุกข์ และถามกันว่า ได้เลี้ยงเด็กคนหนึ่งบกพร่องไปตรงไหน  ก็สรุปได้ว่าพวกเขาก็เป็นครอบครัวทั่วไป ที่พยายามเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด แต่เหมือนกับว่า ณ วันนี้

‘เด็ก’ ไม่ได้ถูกหล่อหลอมแค่ที่ ‘บ้าน’ และ ‘โรงเรียน’ อีกต่อไป

ณ วันนี้ ต้องยอมรับว่า ‘สังคมออนไลน์’ ที่ผู้ใหญ่ ‘ไม่เท่าทัน’ คืออีกหนึ่งสังคมสำคัญ ที่ฟูมฟักค่านิยมให้แก่พวกเขาอย่างที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป.

 

Thailand Web Stat