ภาษีความหวาน 4 ปี ส่งผลคนไทยลดดื่มน้ำหวานทุกกลุ่มอายุ
เผยผลวิจัย มาตรการภาษีเครื่องดื่มรสหวานได้ผล คนไทยกินหวานน้อยลง เสนอปรับเพิ่มเพดานภาษีระยะ 4 เพื่อลดปัญหาโรคเบาหวาน
เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน ร่วมกับสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผลวิจัยติดตามมาตรการภาษีความหวานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พบว่าคนไทยมีแนวโน้มดื่มเครื่องดื่มรสหวานลดลงในทุกกลุ่มอายุ
ผลสำรวจชี้ชัด
รศ. ดร. สิรินทร์ยา พูลเกิด หัวหน้าทีมวิจัย เปิดเผยว่าการศึกษาได้ติดตามกลุ่มตัวอย่าง 3,720 ครัวเรือนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561-2566 พบข้อมูลที่น่าสนใจ:
ผู้ชายไทยดื่มเครื่องดื่มรสหวานมากกว่าผู้หญิง
กลุ่มวัยทำงานตอนต้นและวัยเรียนดื่มมากกว่ากลุ่มอื่น
คนรายได้น้อยมีการดื่มลดลง ขณะที่คนรายได้สูงดื่มเพิ่มขึ้น
น้ำอัดลมยังเป็นเครื่องดื่มที่ถูกเก็บภาษีที่คนไทยดื่มมากที่สุด
เครื่องดื่มชูกำลังและกาแฟกระป๋องยังมีแนวโน้มการดื่มที่ไม่ลดลง
ปัจจัยราคามีผลต่อการตัดสินใจ
การวิจัยระบุว่า 70.5% ของคนไทยจะเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มหากราคาสูงขึ้น โดย:
39.4% จะยังคงดื่มยี่ห้อเดิมแต่ลดปริมาณลง
22.9% จะเลิกดื่มเครื่องดื่มรสหวาน
4.7% จะเปลี่ยนไปดื่มยี่ห้อเดิมแต่เป็นสูตรที่ใช้สารทดแทนความหวาน
3.5% จะเปลี่ยนไปดื่มประเภทอื่น เช่น เครื่องดื่มชงสด
ทีมวิจัยพบว่าคนไทยใช้จ่ายซื้อเครื่องดื่มรสหวานเฉลี่ย 23.55 บาทต่อวัน และรับได้หากราคาเพิ่มขึ้นไม่เกิน 31.24 บาท
เหตุผลในการเลือกดื่ม
เหตุผลในการเลือกดื่มแตกต่างกันตามช่วงอายุ:
เด็ก 10-14 ปี: อิทธิพลจากการตลาดและรสชาติ
วัยรุ่น 15-29 ปี: รสชาติและราคา
วัยทำงาน 30-44 ปี: ราคาและความสะดวกในการเข้าถึง
วัยกลางคน 45-59 ปี: การตลาดที่เน้นคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
ข้อเสนอทางนโยบาย
รศ. ดร. สิรินทร์ยา เสนอให้มีการปรับเพิ่มเพดานภาษีความหวานในระยะที่ 4 ควบคู่กับการควบคุมการตลาดผ่านสื่อโฆษณา และพิจารณาเก็บภาษีเครื่องดื่มประเภทชา/กาแฟชงสด ซึ่งปัจจุบันยังไม่อยู่ในระบบภาษี แต่เป็นเครื่องดื่มที่คนไทยนิยมดื่มมากที่สุดในกลุ่มที่ยังไม่ถูกเก็บภาษี
รศ. ดร. สิรินทร์ยา พูลเกิด
ด้าน ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้จัดการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่าการปรับเพดานภาษีความหวานเป็นระยะที่ 4 จะช่วยลดความชุกของผู้ป่วยเบาหวาน
"ตอนนี้เห็นชัดเจนว่าคนไทยดื่มน้อยลงโดยไม่รู้ตัว เราต้องการให้คนเปลี่ยนรสนิยมของลิ้นที่เคยติดหวานให้หวานน้อยลงหรือไม่หวานเลย ไม่ใช่ไปใช้สารทดแทนความหวาน" ทพญ.ปิยะดา กล่าว
ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม
ภาษีความหวานปัจจุบัน
ขณะนี้ประเทศไทยใช้อัตราภาษีความหวานระยะที่ 3 ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2566 - 31 มีนาคม 2568 เช่น เครื่องดื่มที่มีสารความหวาน 10-14 กรัมต่อลิตร จะเสียภาษีเพิ่มจาก 1 บาท เป็น 3 บาทต่อลิตร.