ผลสำรวจเผย 'ผลกระทบต่อสุขภาพจิตในวัยรุ่น' มาจากโซเชียลมีเดีย
ศูนย์วิจัย Pew (Pew Research Center) ของสหรัฐฯ เผยผลสำรวจพบ 'โซเชียลมีเดีย' เป็นปัจจัยหลักที่กระทบต่อสุขภาพจิตในหมู่วัยรุ่น
จากรายงานของศูนย์วิจัย Pew (Pew Research Center) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ( 22 เมษายน 2568 ) ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นชาวอเมริกัน 1,391 คน อายุระหว่าง 13 ถึง 17 ปี และผู้ปกครองของพวกเขา ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมของปีที่แล้ว พบว่า วัยรุ่นที่ตอบแบบสอบถามกว่า 48% คิดว่าสื่อสังคมออนไลน์เป็นปัจจัยหลักที่สร้าง “ผลกระทบด้านลบ” ต่อคนในวัยเดียวกัน เพิ่มขึ้นจาก 32% จากปี 2022 อย่างไรก็ตามกลับพบว่าในหมู่วัยรุ่นที่ตอบผลสำรวจ มีเพียง 14% เท่านั้นที่กล่าวว่าสื่อสังคมออนไลน์ส่งผลกระทบด้านลบต่อพวกเขาเอง
ผู้ปกครองมองว่าโซเชียลมีเดียส่งผลลบต่อวัยรุ่นเป็นอย่างมาก ขณะที่วัยรุ่นมองปัจจัยที่หลากหลายกว่า
มุมมองของผู้ปกครองจะมองว่าสื่อสังคมออนไลน์เป็นเหตุผลอันดับหนึ่งที่ผู้ปกครองกล่าวว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลลบมากที่สุดต่อวัยรุ่น ในหมู่ผู้ปกครองที่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพจิตของวัยรุ่นอย่างน้อยในระดับหนึ่ง 44% กล่าวว่าสื่อสังคมออนไลน์มีผลกระทบด้านลบสูงสุดในปัจจุบัน ในขณะที่วัยรุ่นมองว่ามีปัจจัยหลากหลายที่ส่งผลต่อสุขภาพจิต แต่ก็ยังมองว่าโซเชียลมีเดียเป็นปัจจัยหลัก รองลงมาคือ เทคโนโลยี การกลั่นแกล้งออนไลน์ รวมไปถึงแรงกดดันและความคาดหวังที่สังคมมีต่อวัยรุ่นในปัจจุบัน
ทั้งนี้ วัยรุ่นจำนวนมากรายงานว่าตนเองใช้เวลาบนสื่อสังคมออนไลน์มากเกินไป โดย 45% ของวัยรุ่นกล่าวว่าตนใช้เวลาบนสื่อสังคมออนไลน์มากเกินไปในการสำรวจครั้งนี้ เพิ่มขึ้นจาก 36% ในปี 2022 ในขณะที่ประสบการณ์ของเด็กผู้หญิงบนสื่อสังคมออนไลน์มีแนวโน้มเป็นด้านลบมากกว่า โดยวัยรุ่นหญิงมีแนวโน้มมากกว่าวัยรุ่นชายที่จะกล่าวว่าสื่อสังคมออนไลน์ทำร้ายสุขภาพจิตของพวกเธอ (25% เทียบกับ 14%) ทำร้ายความมั่นใจในตนเอง (20% เทียบกับ 10%) หรือทำให้ส่งผลต่อการนอนหลับ (50% เทียบกับ 40%)
ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อสุขภาพจิต มิตรภาพ และการนอนของวัยรุ่น พบว่า วัยรุ่น 45% กล่าวว่า สื่อสังคมออนไลน์ทำให้พวกเขานอนน้อยลง 40% บอกว่าทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง มีเพียงประมาณ 10% หรือน้อยกว่าที่บอกว่าสื่อสังคมออนไลน์ช่วยในเรื่องนี้
พื้นที่เชิงบวก หาวิธีแก้ไขเรื่องสุขภาพจิต
ผลสำรวจยังชี้อีกว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่เห็นว่าสื่อสังคมออนไลน์เป็นพื้นที่เชิงบวกสำหรับมิตรภาพและความคิดสร้างสรรค์ โดย 74% ของวัยรุ่นกล่าวว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยให้พวกเขารู้สึกเชื่อมโยงกับเพื่อน ๆ มากขึ้น และ 63% กล่าวว่ามันเป็นพื้นที่สำหรับแสดงความคิดสร้างสรรค์ของตน
แม่ของวัยรุ่นคนหนึ่งกล่าวในแบบสำรวจว่า "เทคโนโลยีทำให้พวกเขากลัวที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ ทำให้พวกเขาสร้างสรรค์น้อยลง และทำให้พวกเขาแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านความสัมพันธ์หรือปัญหาทางกายภาพ"
ในขณะที่ 80% ของผู้ปกครองกล่าวว่าพวกเขารู้สึกสบายใจอย่างยิ่งในการพูดคุยกับลูกวัยรุ่นเกี่ยวกับสุขภาพจิตของลูก ขณะที่มีเพียง 52% ของวัยรุ่นที่รู้สึกแบบเดียวกัน พวกเขาจึงพึ่งพาสื่อสังคมออนไลน์ในฐานะแหล่งข้อมูลสุขภาพจิต โดย 34% ของวัยรุ่นกล่าวว่าพวกเขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิตจากสื่อสังคมออนไลน์อย่างน้อยบางครั้ง
ทั้งนี้ จากผลสำรวจดังกล่าว ดูเหมือนว่าโซเชียลมีเดียจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยวัยรุ่นส่วนใหญ่ยกเครดิตให้โซเชียลมีเดียที่ทำให้พวกเขารู้สึกเชื่อมโยงกับเพื่อนมากขึ้น อย่างไรก็ตามตัวเลขที่น่าติดตามคือ จำนวนวัยรุ่นที่คิดว่าโซเชียลมีเดียส่งผลเสียต่อคนในวัยเดียวกันที่กำลังเพิ่มขึ้น
ในขณะที่สหรัฐอเมริกา ได้มีการเรียกร้องให้สภาคองเกรสกำหนดให้มีการติดป้ายเตือนความเสี่ยงต่อเยาวชนบนแอปโซเชียลมีเดีย เช่นเดียวกับที่ติดป้ายเตือนบนผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์และยาสูบ ขณะที่ออสเตรเลียก็ได้ผ่านกฎหมายฉบับแรกของโลกที่ห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย และในเดือนมีนาคม ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ Spencer Cox ได้ลงนามในกฎหมายสำคัญที่กำหนดให้ร้านค้าแอปต้องตรวจสอบอายุของผู้ใช้ และแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวกับนักพัฒนาแอป เพื่อปกป้องเยาวชนจากการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมทางออนไลน์.
ที่มา
https://www.pewresearch.org/internet/2025/04/22/teens-social-media-and-mental-health/