เตรียมนับถอยหลัง "สิ้นสุดตำนาน Skype" โบกมือลา 1 พ.ค. 68 นี้
เตรียมนับถอยหลัง "สิ้นสุดตำนาน Skype" โบกมือลา 1 พ.ค. 68 นี้ หลังเคยเป็นผู้บุกเบิกยุค "วิดีโอคอล" ครองใจคนทั่วโลก
แพลตฟอร์มสื่อสารออนไลน์ชื่อดังระดับโลกอย่าง "Skype" ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้บุกเบิกและพลิกโฉมการเชื่อมต่อสื่อสารระยะไกลผ่านวิดีโอ เตรียมยุติการให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 นี้
นับเป็นการปิดฉากบทบาทของโปรแกรมที่เคยเป็นมากกว่าแอปฯ แชท แต่เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ของผู้คนในยุคที่เทคโนโลยีการสื่อสารอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน Skype ทั้งแบบส่วนตัว (ฟรี) และแบบเสียเงิน แต่ไม่รวมถึงบริการ Skype for Business ซึ่งยังคงดำเนินต่อไป
สำหรับผู้ใช้งาน Skype ในปัจจุบัน Microsoft ในฐานะเจ้าของผลิตภัณฑ์ ได้เปิดทางเลือกให้ผู้ใช้งาน Skype
สามารถย้ายข้อมูลและเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams Free ได้อย่างราบรื่น ซึ่งแพลตฟอร์มใหม่นี้มีคุณสมบัติหลักหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับ Skype
ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ระบบ Microsoft Teams Free บนอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับได้ง่ายๆ โดยใช้บัญชี Skype เดิมที่มีอยู่
เมื่อลงชื่อเข้าใช้ครั้งแรก รายชื่อผู้ติดต่อและประวัติการแชทจะถูกโอนย้ายไปยัง Teams Free โดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ Microsoft จะมีการแจ้งเตือนภายในแอปพลิเคชัน Skype เพื่อแนะนำขั้นตอนและกระบวนการย้ายข้อมูลให้กับผู้ใช้อย่างละเอียด
หรือหากผู้ใช้งานบางส่วนไม่ประสงค์ที่จะย้ายไปยัง Teams Free ก็ยังมีทางเลือกในการส่งออกข้อมูลทั้งหมดจากบัญชี Skype ของตนเองได้ก่อนที่บริการจะสิ้นสุดลง
สำหรับ Skype ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้พลิกโฉมอุตสาหกรรมการสื่อสารผ่านวิดีโอคอล และเป็นเครื่องมือสำคัญที่เชื่อมโยงผู้คนในยุคต้นทศวรรษ 2010 ให้สามารถสื่อสารกันได้ในระยะไกลอย่างสะดวกสบาย
อย่างไรก็ตาม Skype แทบจะเลือนหายไปจากชีวิตประจำวันของผู้คนส่วนใหญ่มาเกือบหนึ่งทศวรรษแล้ว
การเข้าซื้อกิจการโดย Microsoft ด้วยมูลค่าสูงถึง 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2554 ถูกมองว่าเป็นจุดสูงสุดของ Skype ในแง่ของการลงทุน
แต่ภายใต้การดูแลของ Microsoft โปรแกรมสีฟ้าสดใสนี้กลับค่อยๆ ซบเซาลง ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากแพลตฟอร์มทางเลือกอื่นๆ ที่นำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่ทันสมัยกว่า ภาพคมชัดกว่า และฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายครบวงจรกว่า
รายงานจาก The Guardian สื่อชื่อดังจากสหราชอาณาจักร มองว่า Skype เริ่มล้าสมัยอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ราวปี 2557 เป็นต้นมา เมื่อแอปพลิเคชันสื่อสารอื่นๆ เช่น FaceTime เริ่มผนวกรวมฟังก์ชันวิดีโอคอลเข้ากับการสนทนาแบบข้อความได้อย่างแนบเนียน
ประกอบกับรูปแบบการเรียนและการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การวิดีโอคอลที่มีปัญหาเรื่องความเสถียรและกระตุกบ่อย เริ่มไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้อีกต่อไป
ขณะที่แพลตฟอร์มที่เน้นความรวดเร็วและทันสมัยกว่าอย่าง Snapchat กลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
นักข่าวจาก The Guardian ทดลองกลับเข้าสู่ระบบ Skype อีกครั้ง หลังจากทิ้งร้างแพลตฟอร์มนี้ไปนานถึง 5 ปี และภาพที่ปรากฏตรงหน้าสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
จากที่เคยเป็นศูนย์รวมการสื่อสารอันคึกคัก เต็มไปด้วยประวัติการวิดีโอคอลและการแชทข้อความ ปัจจุบันกลับหลงเหลือเพียงเศษซากของยุคสมัยที่ผ่านไป
สิ่งที่พบในปัจจุบัน แชทข้อความส่วนใหญ่ที่หลงเหลืออยู่กลายเป็นข้อความสแปมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและลิงก์ฟิชชิ่ง ซึ่งมาจากบัญชีเพื่อนเก่าที่ครั้งหนึ่งเคยใช้งาน Skype อย่างสม่ำเสมอ แต่ปัจจุบันได้เลิกใช้แพลตฟอร์มนี้ไปนานแล้วเช่นกัน
ภาพดังกล่าวแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง เมื่อ Skype เคยเป็นเครื่องมือหลักหลักและเป็นพื้นที่สำคัญในการหล่อเลี้ยงความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ โดยอาศัยมิติของการเชื่อมต่อและความใกล้ชิดที่สร้างขึ้นบนโลกออนไลน์
คงไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า ในช่วงเวลาหนึ่ง Skype ได้เข้ามาเติมเต็มช่องว่างของการสื่อสาร ด้วยเสียงเรียกเข้าที่คุ้นหู ภาพจากกล้องที่ไม่คมชัดนัก และบรรยากาศของความเปิดกว้างทางเทคโนโลยีในยุคสมัยนั้น
ปัจจุบัน Skype ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ดิจิทัลที่เหลือไว้เพียงเศษเสี้ยวให้รำลึกถึง