ไอบีเอ็ม-เอดับบลิวเอส ชี้ถึงยุค Gen AI ธุรกิจ SME-สตาร์ทอัพ เข้าถึงง่าย
2 ยักษ์ไอที ไอบีเอ็ม-เอดับบลิวเอส ชี้ถึงยุคธุรกิจใช้ Gen AI จริง เทรนด์ Small language ช่วยลดต้นทุน SME-สตาร์ทอัพ เข้าถึงบริการ แนะอัพสกิลบุคลากร ออกกฎหมายจริยธรรมAI รับมือการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนา AI REVOLUTION 2024 : TRANSFORMING THAILAND ECONOMY จัดโดย หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ หัวข้อ 2024 AI Giga Trends : เทรนด์เอไอ จากองค์กรระดับโลก ว่า Gen AI ก็เหมือนเทคโนโลยีอื่นๆที่เกิดขึ้น และค่อยๆมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เปรียบเสมือนการเริ่มต้นของยุคอินเทอร์เน็ตที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ซึ่ง AI เป็นเทคโนโลยีที่มีความพิเศษ มีผลกระทบกับทุกคน ทุกอุตสาหกรรม การ์ทเนอร์ระบุว่าระหว่างปี 2566-2570 เม็ดเงินกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 102 ล้านล้านบาทจะถูกใช้ไปกับ AI ขณะที่ข้อมูลจาก PwC ระบุว่า AI จะส่งผลให้ GDP ของโลกจะเติบโตได้ถึง 14% ในปี 2573 ซึ่งเท่ากับเพิ่มขึ้น 15.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 533 ล้านล้านบาท
สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจาก Statista ระบุว่าตลาด Generative AI จะเติบโตในช่วงปี 2567-2573 ส่งผลให้วอลลุมตลาดมีมูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3.7 หมื่นล้านบาทในปี 2573
ปีนี้จะเป็นปีที่ได้เห็นธุรกิจนำ AI มาใช้เพื่อธุรกิจมากขึ้น เป็นปีแห่งการใช้งานจริง เทรนด์ของ Small language จะเริ่มเข้ามาในธุรกิจ แทน Large language เนื่องจากการเทรนด์ AI หากใช้โมเดล Large language คือ ใช้การเรียนรู้ทุกภาษาทั่วโลก จะเป็นการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ มีการประมวลผล และลงทุนสูง ดังนั้นธุรกิจจึงต้องเลือกโมเดล Small language เจาะจงเฉพาะภาษาและข้อมูลที่ตรงกับความต้องการเพื่อสอน AI ให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง
ยกตัวอย่างภาคการเกษตร ก็สามารถนำ AI มาวิเคราะห์ และ คาดการณ์การปลูกพืชได้ว่า ควรจะปลูกช่วงไหน ถึงจะมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญ คือ เรื่องของข้อมูล เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก การเทรนด์ AI ต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล ซึ่งเทคโนโลยี AI ก็เหมือนเทคโนโลยีอื่น มีเหรียญสองด้าน ผู้กำหนดนโยบายมีความสำคัญในการวางกรอบ และบทลงโทษที่ชัดเจน ล่าสุด สหภาพยุโรป มีกฎกระทรวงดูแล AI แล้ว ซึ่งจะกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นคล้ายกับโมเดลกฎหมายพีดีพีเอ ขณะที่ประเทศไทยก็มีคณะทำงานสร้างกรอบธรรมาภิบาลด้าน AI ซึ่งไอบีเอ็มก็ทำงานบนกรอบนี้อยู่ เพื่อไม่ให้ AI กลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ และให้มีการใช้งานอย่างถูกต้องและยั่งยืน
การใช้เทคโนโลยีต้องใช้เวลา ต้องเกิดความเชื่อใจก่อน ตอนแรกอาจมีคำถาม แต่ไม่นานก็จะกลายเป็นเรื่องที่ใช้งานกันทั่วไป
นายอโณทัย กล่าวว่า เมื่อเห็นตัวเลขเม็ดเงินการลงทุนของ AI แล้ว ประเทศไทยจึงควรรับมือในการอัพสกิล และ รีสกิล บุคลากรเพื่อทำงานร่วมกับ AI เพราะ AI ไม่ได้เข้ามาทำงานแทนคน ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะตามประเทศอื่นไม่ทัน อย่างประเทศสิงคโปร์ ก็เริ่มมีการนำประชากรของประเทศอายุ 40 ปี ขึ้นไป เพื่ออัพสกิล รับมือกับเทคโนโลยี AI แล้ว
ด้านนายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอดับบลิวเอส กล่าวว่า ภายใน 3 ปี องค์กรจะนำ Gen AI มาใช้ถึง 90% มองว่า Gen AI เป็นมาราธอน ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ระยะที่ 3 เทรนด์ของ Small language จะทำให้องค์กรไม่ต้องลงทุนสูง ซึ่ง บริษัทเราสามารถพิสูจน์และประสบความสำเร็จมาแล้วว่าระบบไอทีสามารถทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ด้วยคลาวด์ เช่นเดียวกับ Gen AI ที่เราก็สามารถทำให้บริการสามารถเข้าถึงผู้ประกอบการ SME และ สตาร์ทอัพ ได้
อย่างไรก็ตาม ตนเองมองว่า ความตื่นตัวขององค์กร ไม่น่ากังวล แต่จะทำอย่างไรให้มีเคส เพื่อให้เกิดการใช้งาน สามารถสร้างสรรค์ได้ให้กับองค์กรต่างๆ อย่างเหมาะสม เรามียูสเคสที่เหมาะกับแต่ละอุตสาหกรรม ไว้ให้เลือกใช้ เพื่อเป็นไอเดียในการต่อยอดให้เหมาะสมกับธุรกิจ และไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ ดังนั้นองค์กรต้องชัดเจน ว่า จะนำ AI ไปใช้ในเรื่องใด การใช้งานต้องไม่นำข้อมูลขององค์กรไปใช้แบบสาธารณะ ไม่เช่นนั้น AI จะเรียนรู้แบบไม่ถูกต้อง และความลับหรือข้อมูลองค์กรจะรั่วไหล และอาจถึงคู่แข่งได้ ดังนั้นการเทรนด์ AI ต้องทำเฉพาะในองค์กร
AI เป็นดาบสองคม เราต้องมีการป้องกัน ต้องเขียนโค้ดอย่างไร ไม่ให้ก้าวข้ามลิขสิทธิ์ทางปัญญา การเทรนด์ AI ต้องมีความปลอดภัยด้วย