พาณิชย์ ต่อยอดโมเดลธุรกิจสมุนไพรต้นแบบ “อาหารเป็นยา”
นภินทร นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เยี่ยมชมธุรกิจสมุนไพรของบริษัทธุรกิจสมุนไพรเป็นต้นแบบ ส่งเสริมภูมิปัญญาไทย ขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเชิญร่วมมหกรรม SME แนะนำต่อยอดธุรกิจจัดตั้งเป็นโฮม สเตย์รับนักท่องเที่ยวสายสุขภาพ
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ประกอบด้วยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าภายใน กรมทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี เยี่ยมชมธุรกิจสมุนไพรของจังหวัดเพชรบุรี
บริษัท อินโนเวทีฟ ฟาร์มา เฮิร์บ จำกัด ผู้ประกอบการด้านการผลิตสมุนไพรประเภทยารักษาโรค เภสัชภัณฑ์ และเครื่องสำอางครบวงจร ภายใต้ชื่อแบรนด์ Nature Bloom ซึ่งดำเนินการโดยครอบครัวหมอที่มีอายุกว่า 300 ปีหรือที่เรียกว่า บ้านหมอชอนสมุนไพรเพชรบุรี
ปัจจุบันมีคุณหมอฉัตร์วนิชย์ พวงมาลัย เป็นคุณหมอทายาทรุ่น 4 และเภสัชกรหญิงนวรรณ พวงมาลัย เภสัชกรรุ่น 5 ซึ่งเป็นผู้สืบทอดการรักษาโรคด้วยสมุนไพรไทย ได้เล่าถึงการดำเนินธุรกิจ สมุนไพรมาจนถึงปัจจุบันมีการต่อยอดธุรกิจ Wellness (สุขภาพ) และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรมากมาย และยังเป็นผู้ผลิตที่รับซื้อสมุนไพรไทยที่ชาวบ้านในจังหวัดเพชรบุรีปลูก รวมถึงให้ความรู้ด้านตำรับยา ต่าง ๆ แก่ชาวบ้าน นอกจากนี้ยังได้ริเริ่มโครงการ อาหารเป็นยาโดยใช้แนวคิดใน “ปรุงยาในนาข้าว” โดยคิดค้นสารที่อยู่ในข้าวและนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมเพื่อบำรุงสุขภาพ
นายนภินทร เปิดเผยว่า จากการที่ได้รับชมข้อมูลการดำเนินธุรกิจของบริษัท ตนขอชื่นชมว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีศักยภาพและมีความพัฒนาในเรื่องของสินค้าสมุนไพรเป็นอย่างมาก โดยข้อติดขัดของผู้ประกอบการที่ต้องการขอให้กระทรวงพาณิชย์ให้ความส่งเสริม ตนได้มอบหมายให้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดร้านค้าสมุนไพรในห้างสรรพสินค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการจดสิทธิบัตรแบบ fast track เพื่อให้ได้รับการพิจารณาคำขออย่างรวดเร็ว ในส่วนของกรมการค้าภายใน ขอให้ผู้ประกอบการส่งรายการผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ทางกรมเพื่อนำไปนำเสนอให้กับผู้ประกอบการร้านค้าหรือห้างโมเดิร์นเทรดเพื่อจำหน่าย
นอกจากนี้ในส่วนตลาดต่างประเทศได้มอบให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศโดยทูตพาณิชย์ในต่างประเทศขยายตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในต่างประเทศให้ได้มากที่สุด ซึ่งจากที่บริษัทมีการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นการส่งออกที่ยากที่สุดในการผ่านมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
สิ่งที่สำคัญคือเราจะช่วยประชาสัมพันธ์ ซึ่งในส่วนกระทรวงพาณิชย์เองก็มีหลายกรมที่ดูแลเรื่องการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกงานอีเวนท์ต่างๆอย่างที่ผมจะเตรียมจัดให้มีมหกรรมSME ช่วงเดือนมิถุนาก็จะเป็นโอกาสให้ท่าน ได้นำสินค้าและธุรกิจนำออกแสดงให้แก่ผู้ที่สนใจ
กระทรวงพาณิชย์จะช่วยต่อยอดให้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สามารถรักษาโรคได้จริง ถือเป็นหนึ่งในโครงการของกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นต้นแบบ ท่านจะเติบโตขึ้นในอนาคตใกล้ และแนะนำธุรกิจ Wellness หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผมถือว่าเป็นโครงการที่ดี อยากให้จดทะเบียนโฮมสเตย์เพื่อให้ชาวบ้าน ได้มีรายได้และได้เพิ่มองค์ความรู้ให้กับชาวบ้านในการรับนักท่องเที่ยวเพื่อมาทานอาหารสมุนไพรอาหารสุขภาพที่ชาวบ้านได้ปรุงให้ทาน อาทิเช่นที่ผมได้ทานไปอย่างเช่น แตงโมปลาแห้ง ทานแล้วรู้สึกสดชื่นมาก
จากนั้น นายนภินทรและคณะ ได้ไปลิ้มรสอาหารไทยที่ใช้สมุนไพรเป็นส่วนประกอบของอาหาร ณ ร้านป้าหยัน จ.เพชรบุรี พร้อมมอบป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ให้ทางร้านฯ เพื่อการันตีถึงความมีคุณภาพยอดเยี่ยมของอาหารตามมาตรฐานอาหารไทย ที่ใช่มีเพียงแค่ความอร่อย แต่ยังมีการตกแต่งอาหารที่สวยงาม กลิ่นหอมชวนรับประทาน ที่สำคัญได้รับประโยชน์จากสมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบในอาหาร โดยร้านป้าหยัน ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานที่จะได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT 5 ด้าน คือ 1) รสชาติและรูปลักษณ์ของอาหาร 2) วัตถุดิบมีคุณภาพ และมีรายการอาหารไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 3) สะอาดถูกสุขอนามัย 4) บรรยากาศและการตกแต่งร้าน 5) คุณภาพการบริการที่ดี
นอกจากนี้ นายนภินทร ยังได้มอบป้าย Thai SELECT ให้แก่ร้านอาหารโกรกแดง จ.ราชบุรี ร้านอาหารไทย ริมแม่น้ำบรรยากาศดี ที่ผ่านเกณฑ์ประเมินมาตราฐาน Thai SELECT ทั้งรสชาติและมาตรฐานกระบวนการขั้นตอนการปรุงอาหารด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2567) มีร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จำนวน 370 ร้าน แบ่งเป็น Thai SELECT SIGNATURE 18 ร้าน (5%) Thai SELECT CLASSIC 326 ร้าน (88%) และ Thai SELECT UNIQUE 26 ร้าน (7%)