posttoday

“Multy Beauty” ร้านเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลี ขยายเร็ว โตไว ปูพรมเข้าตลาดหุ้น

28 พฤษภาคม 2567

“Multy Beauty” ร้านเครื่องสำอาง ที่เกิดจากความชอบแบรนด์เกาหลีแต่หาซื้อไม่ได้ จุดประกายสู่โอกาสทางธุรกิจ แถมขยายสาขาเร็ว 7 ปี 11 สาขา ภายในสิ้นปี 67-รายได้โตไว จากจุดเริ่มต้น “หลักสิบล้านบาท” สู่ “หลักหลายร้อยล้านบาท” วางเป้าเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น

ถ้าให้นึกถึงร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ ชื่อที่พอจะนึกกันออกคงหนีไม่พ้น EVEANDBOY, BEAUTRIUM, SEPHORA แต่ “โพสต์ทูเดย์” จะพามารู้จักกับ “Multy Beauty” ร้านมัลติแบรนด์ (multi-brand) แหล่งรวมเครื่องสำอางแบรนด์ดังจากต่างประเทศ อีกทั้งยังถูกยกให้เป็นร้านเครื่องสำอางที่ยืนหนึ่งในเรื่องแบรนด์เกาหลีที่เป็นกระแสและหายาก ซึ่งเป็นร้านมีความน่าสนใจไม่น้อย ถ้าได้เข้าไปในร้านจะรู้สึกเหมือนยกเกาหลีมาไว้ที่ไทย แถมขยายสาขาเร็ว รายได้โตไว ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 7 ปี 

“ไพลิน อึ๊งพลาชัย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มัลตี้ บิวตี้ จำกัด เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจว่า เกิดจากตัวเองมีความชอบในเครื่องสำอางเกาหลี และในขณะนั้นไม่สามารถหาซื้อคุชชั่นได้ ทำให้เกิดความคิดที่จะเปิดร้านเครื่องสำอางเกาหลี เพราะคิดว่าจะต้องมีคนที่ชื่นชอบเครื่องสำอางเกาหลีแบบเดียวกับเราแต่หาซื้อไม่ได้เช่นกัน 

โดยเริ่มเปิดร้านแรกเมื่อปี 2560 ใต้โรงหนังลิโด้ บนพื้นที่ 12 ตารางเมตร เท่านั้น ด้วยการติดต่อ Vender ในไทย ที่นำเข้าเครื่องสำอางเกาหลี เริ่มต้นนำมาจำหน่ายประมาณ 10 แบรนด์ ยอดขายดีมาก ทำให้เปิดอยู่ไม่กี่เดือน ก็ขยับขยายมาอยู่ตรง สยามสแควร์ ซอย 2 จากนั้นได้ปิดทั้ง 2 แห่ง และมาเปิดตรง สยามสแควร์ ซอย 5 ซึ่งถือเป็นสาขาแรกของบริษัท ในปี 2562 

ปัจจุบันเปิดให้บริการมาแล้ว 7 ปี มีจำนวน 8 สาขา ได้แก่ สยามสแควร์ ซอย 5, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เมกาบางนา, แฟชั่นไอส์แลนด์, ยูเนี่ยนมอลล์, ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, เดอะมอลล์ บางแค และสยามสแควร์ แฟล็กชิฟสโตร์ ที่มีพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร  

นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทยังมีแผนขยายอีก 3 สาขา ทั้งในห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้ มอลล์ ด้วยงบประมาณรวมกว่า 50-60 ล้านบาท ส่งผลให้สิ้นปี 2567 จะมีทั้งสิ้น 11 สาขา และบริษัทตั้งเป้าหมายขยายไปยังต่างจังหวัด รอบๆ กรุงเทพฯ ภายใน 1-2 ปี

“Multy Beauty” ร้านเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลี ขยายเร็ว โตไว ปูพรมเข้าตลาดหุ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทมีการพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ซ (Electronic Commerce) หรือการซื้อขายสินค้าบนออนไลน์ โดยเฉพาะ แอปพลิเคชันของร้านมัลตี้ บิวตี้ (Multy Beauty) ลงทะเบียนลูกค้าในระบบสมาชิก ซื้อครบ 25 บาท รับ 1 คะแนน สะสมไว้รับโปรโมชั่นในการซื้อสินค้าครั้งต่อไป ช่วยเพิ่มความสะดวก และสร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ  

ทางด้านรายได้เริ่มต้นปีแรกทำได้หลักสิบล้านบาท ล่าสุดปิดปี 2566 บริษัทมีรายได้ 300 ล้านบาท และในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเท่าตัว เป็น 600-700 ล้านบาท เป็นการติบโตจากการขยายสาขา และยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อีกทั้งมีแผนผลักดัน Multy Beauty เข้าตลาดหุ้นอีกด้วย

ขณะที่รายได้แบ่งเป็นแบ่งตามช่องทางการจำหน่าย จะมาจากออฟไลน์ 70% และออนไลน์ 30% ขณะที่แบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ จะมาจากเมคอัพ 50% สกินแคร์ เกือบ 40% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือจะมาจาก Personal Care, Accessories และ น้ำหอม ภายใต้สินค้ามากกว่า 400 แบรนด์ แบ่งเป็นแบรนด์เกาหลี 70% ไทยและญี่ปุ่น 30%

ในส่วนของเมคอัพ ผลิตภัณฑ์ที่มีลูกค้าซื้อเยอะที่สุด ได้แก่ ลิป คุชชั่น และอายแชโดว์ ขณะที่สกินแคร์ผลิตภัณฑ์ที่มีลูกค้าซื้อเยอะที่สุด ได้แก่ โทนเนอร์ กันแดด และเซรั่ม 

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Multy Beauty ในปัจจุบันจะมีอายุระหว่าง 18-24 ปี บริษัทตั้งเป้าหมายขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ครอบคลุมไปถึงอายุ 35 ปี ด้วยการนำผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับลูกค้ากลุ่มอายุ 35 ปี มาจำหน่ายมากขึ้น ผลักดันให้รายได้จากสกินแคร์มีสัดส่วนใกล้เคียงกับเมคอัพ 

รวมทั้งบริษัทยังให้ความสำคัญกับการทำการตลาด ล่าสุด ได้มีการจัดงาน Workshop & Visit Pop-Up Store เปิดตัวแบรนด์ rom&nd (โรแมน) ในร้านมัลตี้ทุกสาขา หรือ rom&nd × Multy มีจุดประสงค์ให้บริการลูกค้าที่เข้ามาเลือกช้อปที่ร้านมัลตี้ บิวตี้ ได้ทดลองเมคอัพไอเทมเด็ดน่าใช้ ซึ่งได้รับการส่งตรงจากแบรนด์ rom&nd(โรแมน) เป็นแบรนด์เมคอัพอันดับต้นๆ จากประเทศเกาหลีใต้

“Multy Beauty” ร้านเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลี ขยายเร็ว โตไว ปูพรมเข้าตลาดหุ้น