เปิดประวัติ นมอัดเม็ดจิตรลดา ก่อนจะมาเป็นของฝากยอดฮิตของคนจีน
เริ่มต้นจากปัญหาเกษตรกรโคนมไทย ประสบปัญหานมสดล้นตลาดในปี 2512 รัชกาลที่ 9 จึงต้องการแปรรูปจากนมสดเป็นนมผง และพัฒนาต่อยอดเป็น นมอัดเม็ด ในปี 2527 เป็นเวลามากกว่า 30 ปี ที่นมอัดเม็ดจิตรลดา อยู่ในตลาดและครองใจคนจีน จนกลายเป็นของฝากยอดฮิตที่พลาดไม่ได้ เมื่อมาเมืองไทย
“นมอัดเม็ดสวนดุสิต” หรือที่คนทั่วไปมักเรียกกันว่า “นมอัดเม็ดจิตรลดา” เป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติจำนวนมากที่ต้องซื้อทุกครั้งที่มาประเทศไทย ทั้งจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม จนกลายเป็นสินค้าของฝากยอดฮิตอันดับหนึ่งตลอดกาล แต่รู้หรือไม่ว่า ที่มาของ นมอัดเม็ดจิตรลดา เกิดจากการแก้ปัญหานมสดล้นตลาดเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา
ย้อนไปเมื่อปี 2503 รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินประพาสประเทศเดนมาร์ก และทรงศึกษาการทำฟาร์มโคนมเพื่อเป็นอาชีพใหม่แก่เกษตรกรไทยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พื้นที่ และพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต สวนจิตรลดา จัดตั้งเป็นโครงการส่วนพระองค์ พระราชทานโรงโคนมสวนจิตรลดาในปี 2505 เพื่อเลี้ยงโคนมเพื่อศึกษา ทดลอง วิจัย และพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นแนวทางในการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ และอาชีพที่เลี้ยงดูชีวิต และปากท้องของพสกนิกรชาวไทย
กระทั่งในปี 2512 เกษตรกรโคนมในประเทศไทย ประสบปัญหาภาวะนมสดล้นตลาด พระองค์จึงมีพระราชดำริให้ศึกษาค้นคว้าหาความเป็นไปได้ที่จะแปรรูปน้ำนมดิบเป็นนมผง เพื่อให้เก็บไว้ได้นาน นอกนี้ยังทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งศูนย์รวมนมเปิดรับซื้อนมสดจากเกษตรกร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และนำนมสดเหล่านั้นมาผ่านกระบวนการผลิต และจัดจำหน่ายในราคาไม่แพง
จากนั้นในปี 2527 จึงได้เริ่มผลิตนมอัดเม็ด เพื่อต่อยอดจากผลิตภัณฑ์นมผง เป็นการแปรรูปจากผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ เพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนบริโภคอาหารดีมีประโยชน์ ในราคาไม่แพง
สำหรับประโยชน์ของนมอัดเม็ด มีรสชาติไม่ต่างจากนมสด โปรตีนจากนมวัวที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และส่วนที่สึกหรอ มีแคลเซียม และวิตามินต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และเสริมสร้างกระดูกของคนทุกเพศทุกวัย สะดวกในการรับประทานเพราะมีรูปร่างเหมือนขนม