posttoday

เลี้ยงสัตว์แทนลูก เทรนด์คนรุ่นใหม่ ดันตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงพุ่ง 4 หมื่นล.

26 มิถุนายน 2567

คานิว่า ส่งอาหารสุนัข เจาะกลุ่ม Gen Z ชี้เทรนด์เลี้ยงสัตว์แทนลูกมาแรง พบเจ้าของสัตว์พร้อมควักเงินจ่ายปีละ 14,200 บาท ชูจุดเด่นนวัตกรรมอาหาร เสริมคอลลาเจน-Non GMO

นายนิติพงศ์ เลาหวิศิษฏ์ กรรมการบริหารบริษัท เพ็ท โพรเทคท์ ฟู้ด จำกัด กล่าวว่า จากสภาพของสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้คนรุ่นใหม่ปรับเปลี่ยนไปตามสภาพสังคมและเกิดเทรนด์  Pet Humanization “เลี้ยงสัตว์แทนลูก” ขยายตัว จากเทรนด์ดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มอัตราเร่งของมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงให้สูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะตลาดธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในไทย ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์มีการคาดกันว่าปีใน 2569 ตลาดนี้จะมีมูลค่าราว 40,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี โดยเฉพาะหมวด อาหารสัตว์เลี้ยงมีสัดส่วนประมาณ 45% ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงมีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อปีที่ 14,200 บาท

จากเทรนด์ที่คนรุ่นใหม่มีลูกน้อยลงหรือสัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว ทั้งหมดนี้อาจเป็นเรื่องที่ดีกับอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง แต่เป็นโจทย์ใหญ่สำหรับแบรนด์ที่อยู่ในตลาดเช่นกัน ซึ่งต้องตอบโจทย์และความต้องการทั้งแมว สุนัข และคนเลี้ยง ดังนั้นที่ผ่านมาเราจึงมีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากอาหารแมวคานิว่า ออกสู่ตลาดและได้รับการยอมรับจากทาสแมว หรือผู้เลี้ยงแมวเป็นอย่างดี โดยความสำเร็จที่เกิดขึ้นเพราะ คานิว่า มี  3 Key Secret Ingredients ที่สำคัญในการทำธุรกิจ คือ 1. การวิจัยและพัฒนาสินค้า ที่คานิว่าต้องใช้เวลาในการศึกษา วิจัยพฤติกรรมธรรมชาติและความต้องการของสัตว์เลี้ยง และผู้เลี้ยงอย่างจริงจัง ร่วมกับสถาบันชั้นนำ ทดลองและพัฒนาอย่างพิถีพิถันจนมั่นใจว่าดีที่สุดเท่านั้น จึงค่อยออกสินค้าสู่ตลาด ตามสโลแกน อาหารแมวคานิว่า “ถูกใจคน รู้ใจแมว” 

2. การสร้างความเชื่อมั่น ด้วยความเชื่อที่ว่า สุขภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และอาหารเป็นหัวใจสำคัญต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง คานิว่าจึงสร้างความเชื่อมั่นโดยการการันตีด้วย Global Standard ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น The British Retail Consortium (BRC) เป็นมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหารแห่งสหราชอาณาจักร มาตรฐาน The Association of American Feed Control Officials (AAFCO) หรือมาตรฐานโภชนาการสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยงของสหรัฐอเมริกา 

และ 3. การสร้างความแตกต่าง: คานิว่ามุ่งมั่นในการสร้างความแตกต่าง ด้วยกลยุทธ์ ที่เรียกว่า ทุกเวลามีคานิว่า ไม่ว่าจะเป็นในมุมมองของผลิตภัณฑ์ที่อยู่คู่กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งแมวและสุนัขในทุกช่วงเวลาความหิว หรือกลยุทธ์ทางการตลาด ที่ทำให้คานิว่าเป็น Top of mind ของลูกค้า และเห็นแบรนด์คานิว่าในระหว่างวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไม่ว่าจากเพลงคานิว่า อินฟลูเอนเซอร์ หรือช่องทาง Social media ต่างๆ ก็ตามเพื่อที่จะเข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลาย และทำให้แบรนด์คานิว่าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

เลี้ยงสัตว์แทนลูก เทรนด์คนรุ่นใหม่ ดันตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงพุ่ง 4 หมื่นล.

ล่าสุด คานิว่า ต่อยอดความสำเร็จอีกขั้นด้วยการส่ง “อาหารสุนัขคานิว่า” พร้อมสโลแกน “คนว่าใช่ หมาก็ชอบ” ขนมแมวเลียรูปแบบใหม่  Kaniva Creamy และอาหารแมวคานิว่า Holistic Grain Free ซึ่งได้พัฒนาร่วมกับสถาบันชั้นนำและใช้เวลากว่า 3 ปีในการพัฒนาสูตรจนค้นพบส่วนผสมพิเศษเฉพาะคานิว่าเพื่อให้น้องหมา รวมถึงการพัฒนาสินค้าในกลุ่มอาหารแมวอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในวงการอาหารแมว โดยได้ตั้งเป้าในการออกสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในทุกปี และสินค้าที่เราคิดค้นและนำออกมาวางจำหน่ายจะต้องมีจุดขายที่ยังไม่เคยมีเจ้าไหนทำมาก่อนในวงการอาหารสัตว์ คิดค้นออกแบบและผลิตด้วยเทคโนโลยีเฉพาะคานิว่า เช่น ขนมแมวเลียรูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อ  Kaniva Creamy ด้วยส่วนผสมพิเศษ ที่เป็นครั้งแรกกับการคิดค้น Freeze Bits ที่ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับน้องแมวและยังเสริมประโยชน์ด้วย Collagen และ Biotin ช่วยบำรุงเส้นขนและผิวหนังของแมวให้ขนสวย เงางาม 

อีกกลุ่มสินค้าที่เราได้พัฒนาออกมาสู่ตลาดในปีนี้ก็คือ อาหารแมวคานิว่าสูตร Holistic Grain Free ที่เป็นครั้งแรกในไทยกับการใช้ส่วนผสมที่เป็น Non-GMO ไม่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม เพื่อให้อาหารออกมาใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ลดอาการแพ้ของแมว และสร้างสมดุลสุขภาพของแมวให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมี Synbiotics ที่มาจาก Pre-Biotics และ Pro-Biotics มี Organic minerals และ Superfoods เช่น Cranberry ที่ช่วยในการบำรุงระบบทางเดินปัสสาวะของแมว

ด้าน นายจารุวัฒน์ เลาหวิศิษฏ์ กรรมการบริหารบริษัท เพ็ท โพรเทคท์ ฟู้ด จำกัด กล่าวว่า   ปัจจุบันคานิว่าและสินค้าในเครือวางจำหน่ายในร้านอาหารสัตว์ในประเทศกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงมีการส่งออกไปมากกว่า 15 ประเทศทั่วโลก ภายในระยะเวลา 2 ปี และในอนาคตวางแผนที่จะขยายสู่ทวีปยุโรป และตะวันออกกลาง เราตั้งใจที่จะทำให้แบรนด์อาหารสัตว์สัญชาติไทย เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากยิ่งขึ้น

เลี้ยงสัตว์แทนลูก เทรนด์คนรุ่นใหม่ ดันตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงพุ่ง 4 หมื่นล.

กลยุทธ์การตลาดที่สำคัญของเราคือการใช้พรีเซนเตอร์ ที่มีเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้า Gen Z พร้อมเสริมภาพลักษณ์   แบรนด์ที่มีความทันสมัย เข้าถึงง่าย เรายังคงเลือกพรีเซนเตอร์ที่มีความคิดสอดคล้องกับแบรนด์ เป็นคนรักสัตว์ และมองสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัว “คุณเจษ” เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ และ “คุณไบเบิ้ล” วิชญ์ภาส สุเมตติกุล ยังคงเป็น พรีเซนเตอร์ของเรา แต่ในโอกาสครบรอบแบรนด์ปีที่ 4 เราตัดสินใจเพิ่มพรีเซนเตอร์อีก 2 คน คือ “คุณเชน” ณัชพล  ชีวะปัญญาโรจน์ และ “คุณโอปอล” กฤษภาฑร นภาวิวัฒนากุล คู่กับสินค้าใหม่ของทางแบรนด์อย่าง ขนมแมวเลีย Kaniva Creamy นอกจากแนวคิดที่สอดคล้องกับแบรนด์แล้ว ทั้งสองยังมีภาพลักษณ์ของเด็กรุ่นใหม่ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Gen Z และฐานแฟนคลับต่างประเทศ ช่วยให้แบรนด์มีความทันสมัย และเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น