Smart SME EXPO 2024 ปิดงานเงินสะพัด 1,263 ล้านบาท
ยอดเจรจาจับคู่ธุรกิจเฉียด 300 คู่ ขณะที่ยอดขอสินเชื่อในงานทะลุ 881.92 ล้านบาท มีคนร่วมงานตลอดทั้ง 4 วันรวมทั้งสิ้น 47,102 ราย ดันยอดเงินสะพัดในงานทั้งสิ้น 1,263 ล้านบาท
นางสาวณรินณ์ทิพ วิริยะบัณฑิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด สรุปผลการจัดงานแสดงแฟรนไชส์ธุรกิจแห่งปี Smart SME EXPO 2024 ที่จัดเมื่อวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาว่า ผลตอบรับค่อนข้างดี สวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ซบเซา โดยมียอดคนเข้าชมงานตลอดทั้ง 4 วัน รวม 47,102 คน มีผู้สนใจเข้าอบรมอาชีพล้นห้องอบรม ร่วม 200 คน ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กชอปเบเกอรี่กับโรงเรียนสอนทำขนมอบและอาหาร UFM ซูชิสร้างอาชีพกับซูชิฮานะ และรวยด้วยวุ้นเงินล้านกับวุ้นพุงพลุ้ย สะท้อนให้เห็นว่ามีผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้อาชีพเพื่อนำไปต่อยอดและสร้างรายได้ให้ตัวเองเพิ่มมากขึ้น
สำหรับแฟรนไชส์ที่มียอดจองติดโผได้รับความนิยมในงาน ได้แก่ หมูสะเต๊ะบีบี, ลูกชิ้นแม่ประณาม , COCO Walk, โคตรปั่นสมูทตี้โยเกิร์ต เพนกวินชานมไข่มุก, Ai-CHA , 24 Coffee Start Up, ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า, หมูทอดในตำนาน, ถุงเท้า Socksy , กงสีทีบาร์, 39 Ramen, MOMO SHAKE, ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส, Bean Bean ถั่วปั่นเพื่อสุขภาพ, ไผ่ทองสเตชั่น, เจ้พงษ์ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์, มารุชา ,ผัดไทภูเขาไฟ, ผัดหมี่พิมายลุงนาย , Advance Vending, VJ Speed Queen, SABUY TECH, Laundry Station และ 24 wash
ส่วนยอดขอสินเชื่อในงานก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน รวมยอดจองสินเชื่อในงานทั้งสิ้น 881.92 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ครองอันดับหนึ่งยอดจองสินเชื่อสูงสุดมูลค่ารวม 568.20 ล้านบาท ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย มียอดจองสินเชื่อ 224.10 ล้านบาท ธนาคารออมสินมียอดจองสินเชื่อ 89.62 ล้านบาท และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดยอดค้ำประกันสินเชื่อในงานรวม 6.9 ล้านบาท
อีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน คือกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ ที่ได้รับความร่วมมือจาก โมเดิร์นเทรด ธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ รวมทั้งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดัง ทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมจับคู่ธุรกิจมากมาย โดยภายในงานสามารถเจรจาจับคู่ธุรกิจได้มากถึง 231คู่ เป็นการจับคู่กับคู่ค้าภายในประเทศไทย 69 คู่ และการจับคู่กับคู่ค้าต่างประเทศรวม 66 คู่ ขณะที่จับคู่เจรจาทำเลทอง 84 คู่ และให้คำปรึกษาด้านการส่งออก 12 คู่
โดยธุรกิจที่เป็นที่ต้องการของโมเดิร์นเทรดและภาคส่งออกมากที่สุด ได้แก่ ขนมขบเคี้ยว รองลงมาคือ อาหารแปรรูป และ สกินแคร์ ส่วนธุรกิจที่มีผู้สนใจเข้าร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจสูงสุด คือ อาหารแปรรูป รองลงมาคือ ธุรกิจความงาม และธุรกิจผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค