posttoday

ออมสิน-ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อแก้หนี้นอกระบบแล้ว 19,571 ราย

27 กันยายน 2567

คลังอัปเดท ออมสิน - ธ.ก.ส. เดินหน้าแก้ไขหนี้นอกระบบ ล่าสุด ปล่อยสินเชื่อแล้ว 19,571 ราย ยอดอนุมัติรวมกว่า 921 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แล้วกว่า 4.3 ล้านบาท

นายพรชัย  ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลังที่ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ผ่านมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ ได้แก่ โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน รวมถึงมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 26 กันยายน 2567 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วจำนวน 19,571 ราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 921.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากแถลงข่าวกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 จำนวน 848 ราย และมียอดอนุมัติเพิ่มขึ้น 31.03 ล้านบาท

สำหรับเจ้าหนี้นอกระบบ กระทรวงการคลังได้ส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจห้บริการสินเชื่อได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยปัจจุบันมีนิติบุคคล (บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด) ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้ว 1,142 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,507,110 บัญชี เป็นจำนวนเงินรวม 43,907.34 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ เพื่อให้มีความชัดเจน มีความเป็นธรรม มีมาตรฐาน ดูแลคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยมีการเปิดการรับฟังความเห็นจากประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 12 – 27 กันยายน 2567 ผ่านระบบกลางทางกฎหมาย (www.law.go.th) และเว็บไซต์สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (www.fpo.go.th) เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์รวมถึงเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจต่อไป