สมาคมแบงก์ คลัง ธปท. ถกแก้หนี้ครัวเรือน พักดอกเบี้ยบ้าน-รถ ช่วยรายย่อย-SME
สมาคมธนาคารไทย หารือ คลัง และ ธปท. แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน เปิดหลักการพักชำระดอกเบี้ยบ้าน-รถ ต้องหยุดก่อหนี้ ต่อลมหายใจรายย่อย และ SME
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมระหว่างสมาคมธนาคารไทย, กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2567 ในเรื่องของการช่วยเหลือลูกหนี้และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้บ้านและรถยนต์ได้ โดยมียอดค้างชำระไม่เกิน 360 วัน มีหลักการใน 2 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย
1.การช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นคนตัวเล็กซึ่งไม่มีกำลังจะผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อรถได้ โดยลูกหนี้ที่เข้าโครงการจะได้พักชำระดอกเบี้ย ผ่อนชำระเงินต้นเท่านั้น และหากสามารถทำได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ก็จะได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยในส่วนที่พักชำระไว้
2.ต้องตระหนักว่าการเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวจะมีผลกระทบส่วนหนึ่ง คือ จะต้องมีการหยุดก่อหนี้ระยะหนึ่ง และหากไม่สามารถทำได้ก็จะยุติการพักชำระดอกเบี้ย กลับเข้าสู่สถานะการผิดนัดชำระหนี้ตามเดิม โดยมาตรการดังกล่าวคงจะเป็นมาตรการระยะยาวประมาณ 3 ปี
ทั้งนี้ ตนในฐานะหนึ่งในคณะทำงานเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน มองว่ามาตรการนี้โดยหลักๆ ต้องการช่วยคนตัวเล็ก เป็นคนดี ยังอยากจะสู้ แต่สู้ไม่ไหว เนื่องมาจากปัญหาที่ลากยาวมาตั้งแต่โควิด-19 จนถึงปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน และการที่คณะทำงานเลือกหนี้บ้านและรถ เพราะไม่อยากให้เกิดการยึดที่อยู่อาศัย ซึ่งบางส่วนก็เป็นสถานที่ประกอบการสำหรับเอสเอ็มอีด้วย รวมถึงการยึดรถยนต์ที่เป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ เพราะหนี้กลุ่มนี้เป็นหนี้ที่เป็นเอ็นพีแอลแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะต้องโดนยึดบ้านหรือรถไป ซึ่งจากตัวเลขเอ็นพีแอลของระบบอยู่ที่ประมาณ 3% หมายความว่า สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อรถ ที่อยู่ใน 3% นี้ สามารถเข้าโครงการได้หมด
อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่ามาตรการต่างๆ ก็ต้องมีผลข้างเคียง เพราะหากเราไม่จำกัดการก่อหนี้เพิ่มก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนได้ และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์จงใจผิดนัดชำระหนี้ ขณะเดียวกัน กลุ่มที่คิดจะถือโอกาสหยุดชำระหนี้เพื่อให้ได้รับการพักดอกเบี้ย ก็ไม่ควรจะเข้ามา เพราะมีผลข้างเคียงที่ไม่น้อยเช่นกัน คือ จะต้องโดนคุมความประพฤติเรื่องการก่อหนี้ที่เข้มงวด
“เราเปรียบเทียบตรงนี้เหมือนเข้าไปรักษาการคนที่เป็นมะเร็งในระดับเยอะแล้ว ก็ต้องมีการให้คีโม ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่าจะต้องมีผลกระทบกับผู้ได้รับ แต่ก็มีโอกาสที่คุณจะรอดแล้วกลับมาใช้ชีวิตหรือทำมาหากินต่อไปได้ แต่ก็ต้องทำใจเช่นกันว่ามีส่วนหนึ่งที่จะกลับมาไม่ไหว เพราะสถานการณ์ที่เป็นอยู่ถือว่าไม่น้อย” นายปิติ กล่าว
สำหรับขั้นตอนและรายละเอียดต่างๆ ของโครงการ รวมถึงการดูแลในส่วนของรายได้ที่ธนาคารจะสูญเสียไปนั้น ทาง ธปท. และกระทรวงการคลังจะต้องดำเนินการต่อไป และจะมีรายละเอียดออกมาหลังจากนี้ ซึ่งจะพยายามออกมาให้เร็วที่สุด เพราะสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในปัจจุบันถือว่าหนักแล้ว
ดังนั้น เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะต้องเข้ามาช่วยกัน เพื่อไม่ให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้ เพราะตอนนี้เมื่อหนี้มีปัญหามากเข้า ธนาคารเองก็ต้องเข้มงวดในการปล่อยกู้ ก็วนกลับไปสู่ธุรกิจและระบบเศรษฐกิจที่ไม่มีเงินไปหมูนเวียนต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีมาตรการนี้ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาก็ช่วยให้ภาพรวมด้านต่างๆ เริ่มดีขึ้น
ลุ้นสินเชื่อไตรมาส 4/67 เด้งรับดอกเบี้ยขาลง
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า ภาพรวมสินเชื่อในปี 2567 ก็เป็นไปตามสถานการณ์ของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน ทั้งสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรถ เป็นความยากลำบากสำหรับปีนี้ โดยรวมแล้วยังชะลอตัวอยู่ ตามความต้องการของผู้บริโภค และการพิจารณาของธนาคารที่ต้องมีการปรับเกณฑ์บ้างตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่
ทั้งนี้ หวังว่าเมื่อมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้สินเชื่อกระเตื้องขึ้นได้บ้างในไตรมาส 4/2567 แต่โดยรวมแล้วสินเชื่อทั้งปี 2567 น่าจะทรงตัวหรือติดคลบเล็กน้อย เนื่องจากสินเชื่อหลักของธนาคาร อย่างสินเชื่อรถยนต์ น่าจะยังหดตัวอยู่ประมาณ 15% สินเชื่อบ้าน น่าจะลดลงประมาณ 8%
“เมื่อเทียบกับช่วงโควิด-19 แล้ว ถือว่าเป็นคนละสถานการณ์ ตอนโควิดสินเชื่อลงไปแล้วผ่านไปมันกลับมา แต่ตอนนี้เป็นเรื่องของการทรุดตัวของธุรกิจ และเศรษฐกิจด้วย ซึ่งเราก็เห็นสัญญาณมาพักหนึ่งแล้ว รวมไปถึงคุณภาพหนี้ด้วย ศักยภาพของลูกหนี้ก็ลดลงจากรายได้ที่ลดลง ทำให้เห็นยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ลดลง ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าเมื่อผลของการลดอัตราดอกเบี้ยมาถึงก็น่าจะช่วยกระตุ้นได้บ้าง และตอนนี้เราก็เริ่มเห็นบัญชีของลูกหนี้ที่ไหลลงมาเป็นลูกหนี้ผิดนัดชำระเริ่มนิ่ง ประกอบกับที่ผ่านมา เราทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้มาอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าผ่านแย่สุดไปแล้ว แต่ก็ยังต้องเร่งเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ต่อไป” นายฐากร กล่าว