posttoday

“divana” ปักธงรายได้ปี 68 พุ่ง 600 ล้าน รับต่างชาติเที่ยวไทย-ขยายสาขาใหม่

27 มกราคม 2568

“divana” กางแผนธุรกิจปี 68 ตั้งเป้ารายได้โต 100% แตะ 600 ล้านบาท รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย พร้อมทุ่มงบลงทุน 100 ล้านบาท เปิด Luxury Spa 2 สาขา และร้านค้าปลีโพสต์ทูเดย์กจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องหอม 5 สาขา รุกขยายตลาดต่างประเทศ ประเดิมจีนที่แรก

นายพัฒนพงศ์ รานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ดีวานา เวลเนส จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้รวมอยู่ที่ 600 ล้านบาท เติบโตเท่าตัว หรือเติบโต 100% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจ Luxury Spa คิดเป็น 50% และธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องหอม ภายใต้แบรนด์ “divana” คิดเป็น 50% 

ทั้งนี้ การเติบโตรายได้ในปี 2568 จะมาจากแผนการขยายสาขาใหม่ โดยวางงบลงทุนในปีนี้ไว้ประมาณ 100 ล้านบาท แบ่งเป็น 50 ล้านบาท ใช้ในการเปิด Luxury Spa เพิ่มอีก 2 สาขา ที่ จ.ภูเก็ต (ในส่วนของคาเฟ่ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องหอม) คาดเปิดได้ในช่วงไตรมาส 1/2568 และพัทยา จ.ชลบุรี (สปา คาเฟ่ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องหอม) คาดเปิดได้ในช่วงปลายปี 2568 จากปัจจุบันมีอยู่จำนวน 6 สาขา ภายใต้แบรนด์ divana Scentuara spa, divana Divine spa, divana Virtue spa, divana Nurture spa ที่กรุงเทพฯ และ divana Lana spa ที่เชียงใหม่ ล่าสุดเมื่อเดือน ธ.ค.2567 ได้เปิด divana Anda spa ที่ลากูนา จ.ภูเก็ต 

ส่วนอีก 50 ล้านบาท ใช้ในการเปิดร้านค้าปลีก (Concept Store) จำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องหอม อีก 5 สาขา ได้แก่ Icon Siam, Central World, Paragon และอีก 2 สาขาอยู่ระหว่างพิจารณาสถานที่ จากปัจจุบันมีอยู่ 20 สาขา โดยมีรายการผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องหอมกว่า 250 SKUs อาทิ เทียนหอม (Scented Candle), ก้านไม้หอมปรับอากาศ (Room Diffuser), ออยล์ทาตัว (Body Oil), น้ำมันอโรมา (Essential Oil) รวมถึงครีมทามือ (Hand Cream) และน้ำมันนวด (Massage Oil)

อีกทั้งบริษัทวางแผนนำร่องขยายสาขาในตลาดต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาไปเปิดเป็น Pop Up ที่ประเทศจีน, ประเทศแถบอาเซียน, Middle East เป็นต้น โดยสัดส่วนกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท คือ ชาวต่างชาติ คิดเป็น 80% ของลูกค้าทั้งหมด อาทิ จีน, รัสเซีย, มาเลเซีย, Middle East และสัดส่วนคนไทย คิดเป็น 20% 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีธุรกิจต้นแบบ dii wellness med spa และธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อ “divana Signature Café” เปิดให้บริการ 3 สาขา ที่กรุงเทพฯ (Central World, Emsphere) และภูเก็ต รวมถึงธุรกิจโรงเรียนสอนการนวดแผนไทยและสปา ภายใต้แบรนด์ "divana innovative academy" เพื่อให้ความรู้และอบรมบริการนวดและสปาแก่พนักงานเธอราปิสต์ ตามหลักสูตรมาตรฐาน divana เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัท และยกระดับมาตรฐานบริการด้านสปาครบวงจร   

ประกอบกับเทรนด์อุตสาหกรรมสปา ทาง Global Wellness Institute (GWI) คาดการณ์ว่า ปี 2568 เศรษฐกิจเพื่อสุขภาพทั่วโลก (Global Wellness Economy) จะมีมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 230 ล้านล้านบาท อีกทั้งยังคาดการณ์ด้วยว่าตั้งแต่ปี 2563-2568 ธุรกิจสปาจะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่อัตรา 17.2% ส่วนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จะเติบโตเฉลี่ยที่อัตรา 20.9%  

“ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ภาครัฐสนับสนุน สอดคล้องกับการเดินหน้าสู่ Medical Hub ของไทย โดย divana คาดว่าธุรกิจสปาเติบโตตามภาวะปกติของเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามามากขึ้น” นายพัฒนพงศ์ กล่าว 

นายธเนศ จิระเสวกดิลก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและผู้ร่วมก่อตั้ง divana กล่าวว่า ในวาระฉลองครบรอบ 25 ปี divana เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ Scentology: น้ำหอมออยล์จากธรรมชาติ 100% ปราศจากสารเคมีอันตราย ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างพิถีพิถัน ปราศจากส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ พาราเบน และซิลิโคน ด้วยคอลเล็กชันจากแรงบันดาลใจของปรากฏการณ์ธรรมชาติสู่ 5 กลิ่น ได้แก่ 1) Sunrise 2) Queen of The Night 3) Snow Drop 4) Laguna 5) Foresta พร้อมเปิดตัวอีก 1 ผลิตภัณฑ์ คือ Scent Bracelet กำไลข้อมือจาก Recycled Silver และหินลาวา ช่วยให้สัมผัสกลิ่นยาวนานหอมได้ตลอดวัน โดยไม่ต้องฉีดน้ำหอมทุกวันบนร่างกายหรือเสื้อผ้า 

สำหรับ บริษัท ดีวานา เวลเนส จำกัด เป็นผู้นำธุรกิจให้บริการ  Luxury Spa และผลิตภัณฑ์เครื่องหอมรักษ์โลกสัญชาติไทยเกรดพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ “divana”