posttoday

จับตา ศาลนัดไต่สวนฉุกเฉิน เนสท์เล่ ขอเลิกคุ้มครองชั่วคราวเนสกาแฟ

17 เมษายน 2568

จับตาศึกวงการกาแฟเป็นอย่างไรต่อ ศาลแพ่งมีนบุรี นัดไต่สวนฉุกเฉินวันนี้ (17 เม.ย.) กรณีที่ "เนสท์เล่" ยื่นขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว "เนสกาแฟ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 เมษายน 2568) เวลา 09.00 น. ศาลแพ่งมีนบุรี จะเปิดการไต่สวนฉุกเฉินกรณี บริษัทเนสท์เล่ยื่นขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ห้ามการผลิตและจำหน่ายเนสกาแฟในประเทศไทย 

 

ศาลได้มีคำสั่งนัดไต่สวนหลังจากฝ่ายทนายของบริษัทเนสท์เล่ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 เพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ศาลออกเมื่อวันที่ 8 เมษายน ซึ่งส่งผลให้เนสท์เล่ต้องระงับการผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟภายใต้เครื่องหมายการค้า Nescafé ในประเทศไทย
 

ทนายฝ่ายเนสท์เล่ได้เตรียมพยานซักค้านจำนวน 11 ปาก ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีพิพาทดังกล่าว ประกอบด้วยเกษตรกร ซัพพลายเออร์ และผู้ประกอบการขนส่ง ที่ได้รับความเสียหาย 


โดยบริษัทเนสท์เล่อ้างว่าคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 68.7 ล้านบาทต่อวัน

 

ด้านทนายฝ่ายโจทก์ ซึ่งเป็นตัวแทนของนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ หรือ เนสกาแฟ แจ้งต่อศาลว่าจะขอซักค้านและนำพยานเข้าสืบในวันนัดไต่สวนฉุกเฉินดังกล่าวเช่นกัน


กรณีพิพาทนี้เกิดขึ้นหลังจากเนสท์เล่แจ้งยุติสัญญาที่ให้สิทธิบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) ในการผลิตเนสกาแฟในปี 2564 โดยการยุติสัญญามีผลสมบูรณ์ตามคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการสากล มีผลเป็นการเลิกสัญญาตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2567
 

 

ผลกระทบจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวส่งผลให้เนสท์เล่ต้องออกหนังสือแจ้งลูกค้าและผู้ประกอบการร้านค้าปลีกทั่วประเทศเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 ว่า บริษัทไม่สามารถรับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เนสกาแฟได้จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง

 

อย่างไรก็ตาม ร้านค้าที่มีผลิตภัณฑ์อยู่แล้วยังสามารถจำหน่ายได้ตามปกติ
 

เนสท์เล่แสดงความกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรายย่อย ร้านกาแฟขนาดเล็ก รถเข็นขายกาแฟ รวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟและเกษตรกรโคนมไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของเนสกาแฟ
 

การไต่สวนในวันที่ 17 เมษายนนี้จะเป็นการพิจารณาว่าศาลจะเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามที่บริษัทเนสท์เล่ร้องขอหรือไม่ ซึ่งจะมีผลอย่างมากต่อทิศทางของคดีความระหว่างสองฝ่าย