พาณิชย์เร่งดันข้าวอินทรีย์นครพนมสู่ตลาดโลก เสริมแกร่ง SME เกษตร
กระทรวงพาณิชย์เร่งผลักดันข้าวอินทรีย์คุณภาพสูงจากนครพนม ขยายตลาดส่งออก เสริมศักยภาพ SME เกษตรกรสู่เวทีการค้าระดับโลก
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ก่อนการประชุม ครม.สัญจร ว่า ได้จัดเวทีหารือร่วมกับผู้ประกอบการท้องถิ่นและกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ เพื่อวางแนวทางผลักดันสินค้าเกษตรคุณภาพสูง โดยเฉพาะข้าวอินทรีย์ เข้าสู่ตลาดสากล
การหารือจัดขึ้น ณ บริษัท ข้าวสุข นครพนม จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในวิสาหกิจชุมชนต้นแบบด้านการแปรรูปข้าว โดยมีผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรม หอการค้า Young Smart Farmer กลุ่ม Moc Biz Club และกลุ่ม YEC เข้าร่วมสะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะ พร้อมร่วมกันกำหนดแนวทางยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SME และ Micro SME ด้านการตลาดและการสร้างมูลค่าเพิ่ม
นายพิชัยระบุว่า ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ไทยต้องเร่งสร้างแบรนด์สินค้าเกษตรที่มีเอกลักษณ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าและลดการพึ่งพาตลาดหลัก เช่น จีน หรือสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มข้าวอินทรีย์คุณภาพสูง เช่น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ไรซ์เบอร์รี่ ข้าวฮางงอก และข้าวกล้อง ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดสุขภาพทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงพาณิชย์เตรียมสนับสนุนการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างเกษตรกรกับผู้ส่งออก การขยายตลาดใหม่ และผลักดันผู้ประกอบการเข้าสู่เวทีงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ เช่น BIOFACH ที่เยอรมนี และ THAIFEX – Anuga Asia ที่ประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ให้แก่สินค้าไทย
นอกจากข้าว ยังมีการวางแผนส่งเสริมสินค้าอัตลักษณ์ (GI) อย่างสับปะรดท่าอุเทน และลิ้นจี่นครพนม ซึ่งผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม โดยกระทรวงฯ ได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่าย MOC Biz Club และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกระจายผลผลิตสู่ตลาดทั่วประเทศ
"ข้าวอินทรีย์ของไทยมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะหากสามารถปิดดีลเจรจา FTA กับสหภาพยุโรปได้สำเร็จ จะยิ่งขยายโอกาสการส่งออกได้อีกหลายเท่า สิ่งสำคัญคือ ต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคต่างชาติ" นายพิชัยกล่าว