ไร้ใบขับขี่ยึดรถชั่วคราว
ตร.เข้มงวดกฎหมายจราจรลดอุบัติเหตุ พบไม่มีใบขับขี่พ.ร.บ.ยึดรถชั่วคราว ดีเดย์สัปดาห์หน้า
ตร.เข้มงวดกฎหมายจราจรลดอุบัติเหตุ พบไม่มีใบขับขี่พ.ร.บ.ยึดรถชั่วคราว ดีเดย์สัปดาห์หน้า
พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้วางแนวทางแก้ปัญหาการจราจรติดขัดและลดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความผิดที่ส่งผลกระทบให้การจราจรติดขัด โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ขับรถย้อนศร ขับขี่บนทางเท้า
ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะควบคุมให้ผู้ขับขี่จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่และต่อพ.ร.บ.ภาคบังคับด้วย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบแล้วไม่มีใบขับขี่และไม่ได้มีการต่อ พ.ร.บ.อย่างถูกต้อง จะต้องทำการยึดรถไว้เป็นการชั่วคราว ดังนั้น ประชาชนต้องปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง
"เนื่องจากกรณีเกิดอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ พบว่าที่ไม่มีประกันภัยภาคบังคับมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตถูกต้อง โดยการจับปรับจะเน้นประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจเป็นหลัก และการตั้งด่านกวดขันต่อไปนี้จะไม่เป็นลักษณะที่ตำรวจเดินวนรอบรถ แต่จะเน้นตั้งด่านตรวจในจุดที่มีการฝ่าฝืนและมีปัญหาการจราจรเป็นประจำและเห็นการกระทำผิดชัดเจนเท่านั้น เพื่อลดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชน" ผช.ผบ.ตร. กล่าว
สำหรับสถิติที่ผ่านมา พบว่ารถจักรยานยนต์มีความเสี่ยงสูงที่สุดต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะกรณีขับรถย้อนศรเป็นสาเหตุสำคัญที่ให้เกิดการสูญเสีย โดยกรณีการเกิดอุบัติเหตุกับรถจักรยานยนต์มีอัตราผู้บาดเจ็บประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และพบอัตราการเสียชีวิตถึง 60 เปอร์เซ็นต์
พล.ต.ท.วิทยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้มีหนังสือแจ้งตามที่คณะรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดกวดขันในการบังคับใช้กฎหมายจราจร เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดลดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยจะเข้มงวดตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เพื่อเป็นการลดปัญหาด้านการจราจรและอุบัติเหตุ อีกทั้งเป็นการสร้างวัฒนธรรมในการขับขี่ที่ดีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางในการปฏิบัติ จึงได้มีการกำชับให้รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ที่รับผิดชอบงานด้านการจราจร และได้มีนโยบายให้สถานีตำรวจ 88 สน. กำหนดแผนการดำเนินการแต่ละเส้นทาง ทั้งในชั่วโมงเร่งด่วนและนอกชั่วโมงเร่งด่วน โดยจะใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ภาพประกอบข่าว