posttoday

พระพยอม ร้องขอความเป็นธรรมหวั่นวัดอาจถูกยึดที่ดิน

28 พฤศจิกายน 2560

เพจดัง เผยแพร่เรื่องราวร้องเรียนจากพระพยอมซึ่งเกรงว่าที่ดินวัดที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามขั้นตอนจะถูกยึดหลังเจ้าของเก่าแก่ฟ้องร้องเรียกที่คืน

เพจดัง เผยแพร่เรื่องราวร้องเรียนจากพระพยอมซึ่งเกรงว่าที่ดินวัดที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามขั้นตอนจะถูกยึดหลังเจ้าของเก่าแก่ฟ้องร้องเรียกที่คืน

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.  ในสังคมได้มีการกล่าวถึงข้อความจากเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” ที่ได้รับการร้องเรียนจาก พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี โดยอ้างว่า วัดได้ไปซื้อที่ดินมาในปี 2547 ซึ่งได้มีการดำเนินการทำเอกสารตามขั้นตอนทุกอย่างถูกต้อง โดยที่ดินนี้เป็นของบุคคลหนึ่งที่เคยอาศัยที่ดินของญาติและเอาที่ดินมาเป็นของตนเองและต่อมานำไปขายให้วัด แต่พอเจ้าของเดิมรู้ก็ฟ้องเรียกที่ดินคืนและคนที่ขายที่ดินก็ไปเซ็นยินยอมว่าไม่ได้ปรปักษ์เพราะรู้แก่ใจว่าเป็นของญาติ พอที่ดินกลับไปเป็นของเจ้าของเดิม โฉนดวัดถือเลยเป็นโมฆะและกลายเป็นถุงกล้วยแขก โดยเนื้อหาทั้งหมด ระบุว่า 

“พระพยอมร้องขอความเป็นธรรม หรือวัดสวนแก้วจะเจอยึดที่ดิน วันนี้มีกรณีน่าอาภัพที่สังคมควรช่วยกันตรวจสอบคืนความเป็นธรรมแก่ชนผู้บริสุทธิ์เป็นสุจริตชน เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2560 วัดสวนแก้ว ได้รับคำสั่งไม่ชอบทางกฎหมายเป็นกรณีให้สังคมศึกษาว่า ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งมีการใช้หลักฐานอะไรก็ได้ ไม่ต้องตรวจสอบที่มาให้ชัดเจนนำมาเป็นหลักฐานพยาน ใช้เป็นบรรทัดฐานทางคดีฟ้องร้องทำให้ผู้บริสุทธิ์สุจริตชนต้องเสียหาย หมดกรรมสิทธิ์โดยไร้การเยียวยาถึงแม้จะมีหลักฐานทางคดีใหม่ของวัดที่ยึดหลักกรรมสิทธิ์อันสุจริต

ปี 2547 วัดได้ซื้อที่ดินแล้วก็ครอบครองโดยชอบธรรมในส่วนของวัด เพราะได้ไปซื้อขายบนกรมที่ดินต่อเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ทำการโอนให้กรรมสิทธิ์เรามา โดยเสียค่าตอบแทน จดทะเบียน จ่ายภาษีเข้ารัฐถูกต้อง เมื่อนำมาใช้ประโยชน์เผยแผ่-พัฒนา-สงเคราะห์ผู้ยากไร้ที่พึ่งในสังคมได้ประมาณปีกว่าแล้ว ภายหลังผู้ขายให้วัดได้ไปยินยอมความกันให้อีกฝ่ายคู่กรณีในที่ดินแปลงใหญ่ ในปี 2549 ก็มีการอาศัยศาลเป็นเครื่องมือและช่องทางกฎหมายในการเรียกที่ดินคืน โดยการตัดฟ้องระงับข้อพิพาทรื้อคดีนำเอกสารพยาน ระยะเวลาอะไรที่พบข้อพิรุธที่ส่อไปในทางฉ้อฉลได้กรรมสิทธิ์ไป

ปี 2559 วัดสวนแก้วก็ได้เก็บข้อมูลที่ชอบด้วยกฏหมายมาร้องครอบครองปรปักษ์เป็นคดีใหม่ ชั้นต้นสรุปวัดก็ถือครอบครองโดยไม่สุจริต ให้ความเป็นจริงที่แตกต่างจากกรณีศึกษาคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๘๒๑/๒๕๕๖ เมื่อมีการเลิกบริษัทจำกัดและผู้ชำระบัญชีได้ยื่นขอจดทะเบียนต่อทางการภายใน 14 วัน นับแต่วันเลิกบริษัทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1254 แล้ว ย่อมทำให้สภาพความเป็นนิติบุคคลของบริษัทสิ้นสุดลง รวมทั้งกรรมการบริษัทย่อมไม่มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทได้อีกต่อไป เว้นแต่กรรมการบริษัทนั้นเป็นผู้ชำระบัญชีด้วย จึงจะมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทต่อไปในฐานะผู้ชำระบัญชี ตามมาตรา 1252

ดังนั้นเมื่อบริษัท ส. เลิกกันและมีการตั้งจำเลยที่ 1เป็นผู้ชำระบัญชีโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว อำนาจของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทย่อมหมดไป และอำนาจจัดการแทนบริษัท ย่อมตกเป็นของจำเลยที่ 1 ผู้ชำระบัญชี การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งไม่มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท อีกต่อไป ได้ทำหนังสือโอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงินค่างานก่อสร้างซึ่งบริษัท (มูลนิธิ) จะได้รับจากจำเลยที่ 3 ในนามของบริษัท ให้แก่โจทก์ โดยจำเลยที่ 1 หาได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวถือไม่ได้ว่าบริษัท ได้โอนสิทธิเรียกร้องให้แก่โจทก์แล้ว โจทก์ไม่อาจฟ้องบังคับจำเลยที่ 3 ให้รับผิดต่อโจทก์ได้ จำเลยที่ 1 เป็นเพียงผู้ชำระบัญชีของบริษัท มีหน้าที่ตามมาตรา 1250 คือ ชำระสะสางงานของบริษัทให้เสร็จไปกับจัดการใช้หนี้เงินและจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัทเท่านั้นหาได้มีบทบัญญัติใดโดยตรงให้ผู้ชำระบัญชีต้องรับผิดเป็นส่วนตัวในหนี้สินของบริษัท ที่ตนเป็นผู้ชำระบัญชีค้างชำระบุคคลภายนอกอยู่ไม่ ประกอบกับเมื่อบริษัท ส. ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เพราะขณะที่ทำสัญญาบริษัทได้จดทะเบียนเลิกบริษัทไปก่อนแล้ว จึงไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลอีกต่อไป สัญญาจึงไม่มีผลผูกพันบริษัท ส. และโจทก์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ชำระบัญชีของบริษัทจึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ต่อโจทก์ในฐานะผู้ชำระบัญชีอีกด้วย

ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5)ประกอบมาตรา 246 และ 247 จึงเป็นกรณีให้สังคมผู้คิดผู้สร้างความยุติธรรมศึกษามาเข้าใจกัน” เพจดังกล่าว ระบุ

หลังเรื่องดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้าไปแชร์เรื่องดังกล่าวพร้อมตำหนิการกระทำของเจ้าของเดิมที่นำที่ดินคนอื่นมาขายต่อวัด รวมถึงตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำแบบนี้อาจจะมีเงื่อนงำอะไรมากกว่านี้หรือไม่

พระพยอม ร้องขอความเป็นธรรมหวั่นวัดอาจถูกยึดที่ดิน

พระพยอม ร้องขอความเป็นธรรมหวั่นวัดอาจถูกยึดที่ดิน