"สมยศ"รับเคยยืมเงินเสี่ยกำพล300ล้าน แต่ใช้คืนครบและแจ้งป.ป.ช.แล้ว
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงยอมรับเคยยืมเงิน "เสี่ยกำพล" 300ล้านบาท แต่ใช้คืนครบหมดเรียบร้อยและแจ้งป.ป.ช.ตั้งแต่ปี58
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงยอมรับเคยยืมเงิน "เสี่ยกำพล" 300ล้านบาท แต่ใช้คืนครบหมดเรียบร้อยและแจ้งป.ป.ช.ตั้งแต่ปี58
จากกรณีที่นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือ เสี่ยกำพล เจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท ที่ถูกดำเนินคดีค้ามนุษย์ และโดนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ระบุยึดทรัพย์ในเบื้องต้นแล้วกว่า 300 ล้านบาทและอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามกลุ่มผู้กระทำผิด รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงิน อีกทั้งมีการออกมาเปิดเผยด้วยว่านักธุรกิจเจ้าของสถานบริการรายนี้มีความเกี่ยวข้องกับอดีตนายตำรวจใหญ่นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.พ. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และอดีต ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพัวพันกับเงินจำนวน 300 ล้านบาท ของนายกําพล ว่า ส่วนตัวรู้จัก นายกำพล มานานกว่า 20 ปี จากการแนะนำผ่านเพื่อน โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนในแวดวงพระเครื่อง ซึ่งคบหาเป็นเพื่อนกันมา วันที่ตนจัดงานวันเกิดเพื่อหาเงินไปสร้างโรงพยาบาลที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกำพลก็ได้มาร่วมงานและบริจาคเงิน 5 ล้านบาท จัดงานประกวดพระเครื่องเพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ นายกำพลก็ได้มาร่วมงาน ร่วมประมูลพระเครื่องไปในราคา 31 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุณกำพลได้ร่วมกิจกรรมการกุศลกับผมมา
"การคบกันเป็นเพื่อน แน่นอนว่ามีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ผมเคยเดือดร้อนก็เคยไปขอความช่วยเหลือจากคุณกำพลหลายครั้ง คุณกำพลได้เคยให้ความช่วยเหลือผมด้านการเงินกว่า 3-4 ครั้ง รวมแล้วก็เป็นเงินตามที่ข่าวปรากฏ 300 กว่าล้าน"พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า การโอนเงินให้การช่วยเหลือครั้งนั้น มีการโอนเงินเข้าระบบธุรกรรมทางธนาคารอย่างชัดเจน ทำให้มีเส้นทางการเงินปรากฏว่านายกำพลโอนเงินมาที่ตน แต่ในปีเดียวกันนายกำพลก็มาขอเงินคืน ผมก็ได้คืนเงินให้ครบถ้วนเรียบร้อยผ่านระบบการทำธุรกรรมทางธนาคารอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ที่สำคัญเอกสารต่างๆที่เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินหรือการโอนเข้าระบบของธนาคาร ได้รายงานส่งให้ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.เรียบร้อยตั้งแต่ปี2558 เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นธุรกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับนายกำพลมีจริง แต่ผ่านระบบต่างๆมีสัญญาถูกต้องตามกฎหมายมีการโอนเงินชดใช้หนี้สินเรียบร้อย
"ฉะนั้นจึงไม่มีเหตุจำเป็นให้ผมปกปิด เพราะผมไม่ได้คิดว่าเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าสังคมหรือใครก็ตามที่ยังสงสัยว่าเงินที่มาให้ผมยืมหรือมาช่วยเหลือผมก็ดีเป็นเงินที่มาจากการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายอันนี้ต้องไปถามคุณกำพลว่าไปนำเงินนี้มาจากไหน ผมตอบไม่ได้ เพราะผมจะไปยืมเงินใครคงไม่มากล้าถาม"อดีต ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า "ให้ไปถามว่าเงินที่คุณนำมาให้ผมยืมไปปล้นมาหรือเปล่า หรือไปค้ายาเสพติดมาหรือเปล่า ยืมก็คือยืม ช่วยก็คือช่วย ช่วยแล้วไม่ได้หายไปไหน เงินก็เอากลับไปคืน การโอนเงินการโยกย้ายเงินอยู่ในระบบของทางธนาคาร เรื่องนี้ตนยินดีพร้อมและเต็มใจที่จะชี้แจงกับหน่วยงานใดๆที่จะสอบถาม เงินจำนวนดังกล่าว ถ้าได้รับการประสานงานมา ตนได้เตรียมเอกสารดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้วก็คงไม่ยากเอกสารต่างๆก็คือสำเนาเดียวกับที่รายงานต่อ ป.ป.ช. ถ้าตนมีเจตนาทุจริตหรือปิดบังซ่อนเร้นช่วยเหลือ นายกำพล ตนให้คุณกำพลหอบเงินสดมาให้ไม่ดีกว่าหรือ"