แฉเล่ห์กลแฮกเกอร์เจาะระบบเฟซบุ๊กล้วงเงินผ่านบัตรเครดิตซื้อโฆษณา

เตือนภัยผู้ใช้เฟซบุ๊ก ระวังแฮกเกอร์ดูดบัตรเครดิตที่ผูกติดกับระบบออนไลน์ แนะติดต่อธนาคารทำบัตรใหม่ หรือปิดบัญชีป้องกันเงินสูญหาย

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Torfan Torrung Chantawisurt โพสต์ข้อความเรื่องราวเกี่ยวกับการโดนแฮกเฟซบุ๊กตัดเงินผ่านบัตรเครดิตเพื่อให้ซื้อโฆษณา โดยฝีมือของแฮกเกอร์รายหนึ่ง และมีวิธีการป้องกันภัย ซึ่งมีรายละเอีดของเรื่องราวที่น่าสนใจดังนี้

"ผมมาแชร์ข้อมูลจากการโดนแฮค และการป้องกันครับ เผื่อมันจะมีประโยชน์สำหรับคนอื่นๆไม่มากก็น้อยครับ

ตอนแรกคิดว่าแค่การแฮคเพื่อขอยืมเงิน หรือดึงคนไปกลุ่มต่างๆ แต่มันไม่ใช่เป็นการแฮคเพื่อซื้อโฆษณาในเพจที่น่ากลัวมากๆครับ ถ้าการแจ้งเตือนไม่ขึ้นเตือน หรือเอะใจคงเสียหายมากกว่านี้

การแฮคเพื่อซื้อโฆษณา จะต้องมีการยืนยันคำขอจากเราก่อนว่าใช่เราหรือไม่ และการซื้อโฆษณาใน Facebook จะเป็นการซื้อแบบเข้าถึงจำนวนผู้คน ยิ่งมากราคายิ่งสูง แต่มันมีข้อดีคือ ราคาจะขยับตามคนเห็น ในกรณีของผมถูกตั้งไว้ที่ 23 ล้านคน วงเงินโฆษณา 3 แสนบาท ซึ่งถูกอนุมัติไปแล้วช่วงที่ถูกแฮคหลังเวลาประมาณ 2.00 น.

การหักเงินในบัญชีจะอัพเดททุกๆ 6 ชม. เงินถูกหักครั้งแรกเวลาประมาณ 12.00 น. เริ่มเอะใจ ทำการอายัดบัตรที่เลขตรงกับอีเมลล์แจ้งเตือนในกล่องข้อความทันที และรีบถอนเงินออกจากบัญชีทันที

ติดต่อธนาคารเพื่อทำบัตรใหม่ และสังเกตุการอาจจำเป็นต้องปิดบัญชี และเปลี่ยนบัตรใหม่ที่ยกเลิกธุรกรรมออนไลน์ Visa ทั้งหมดเพราะเข็ดมาก

หลังจากที่ถูกหักเงินก้อนแรกไปแล้ว เงินจะถูกหักสะสมเรื่อยๆ แต่ยังไม่หักจากบัญชีเรา เพราะตอนที่ผมติดต่อธนาคาร จนท.ก็พยายามประสาน ผมเองก็พยายามติดต่อ #วงเงินที่เตรียมหักขยับไปเรื่อยๆ

ทำการติดต่อศูนย์Favebook ตามขั้นตอนจะมีกล่องข้อความให้เราร้องเรียน และจะได้รับการอนุมัติไม่นานครับ ใจเย็นๆและค่อยๆอ่านทำตามขั้นตอน

แฮคเกอร์รายนี้พยายามแฮคบัญชีนี้ตั้งแต่เดือนเมษายน แต่การแจ้งเตือนทั้งหมด อยู่ใน Email ซึ่งหลังจากมีไลน์ มีเมสเซนเจอร์ ก็แทบไม่ได้ใช้ ต้องระวังกันให้มากนะครับ มีการแฮคที่ กทม และเอาบัญชีไปใช้ที่เวียดนามครับ

หลังจากหักไปแล้วก็กังวล วงเงินที่รอเตรียมหัก พอมีการแจ้งเตือนแล้วว่าโฆษณาถูกยกเลิกไปแล้วก็สบายใจขึ้น และใจเย็นๆอ่านรายละเอียดของ Facebook ให้มากมีการตั้งค่าระบบความปลอดภัย 2 ชั้น มีการตั้งค่าการแจ้งเตือนการเข้าระบบจากอุปกรณ์อื่น ระบุการติดต่อให้รัดกุมขึ้น ต้องทำทุกขั้นตอนและะใช้เวลาพอสมควรครับ

จึงอยากเอามาแชร์ครับ ถ้าคนเผลอหมดตัวเลยครับ

สรุปเลยครับ อย่าพึ่งคิดแจ้งความเพราะเป็นการโจรกรรมข้อมูลทางอิเล็คโทรนิค ต้องมีสติ เอาเงินในบัญชีออกมาก่อนให้หมด อายัดบัตร ปิดบัญชีได้ปิดเลยครับ

นายรัฐ จันทวิสูตรเจ้าของเรื่องนี้ยืนยันว่าเป็นประสบการณ์ตรงที่เจอมากับตัว แฮกเกอร์มักจะมาในช่วงเวลาเราหลับ ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจแจ้งความเพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์ แต่อยากจะเขียนเรื่องราวนี้ไว้เป็นอุทหารณ์