ยกฟ้อง"เปรมชัย-ภรรยา-คนสนิท" ไม่มีเจตนาครอบครองงาช้าง
ศาลอาญา พิพากษายกฟ้อง "เปรมชัย-ภรรยา-คนสนิท ชี้ ไม่มีเจตนาครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย เป็นมรดกตกทอดจากแม่สู่ลูก ยื่นแบบคำขอก่อน รอลุ้นอัยการอุทธรณ์อีกยก
ศาลอาญา พิพากษายกฟ้อง "เปรมชัย-ภรรยา-คนสนิท ชี้ ไม่มีเจตนาครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย เป็นมรดกตกทอดจากแม่สู่ลูก ยื่นแบบคำขอก่อน รอลุ้นอัยการอุทธรณ์อีกยก
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีครอบครองงาช้าง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางคณิตดา กรรณสูตร อายุ 65 ปี ภรรยาของนายเปรมชัย , นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 65 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) , น.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 71 ปี คนใกล้ชิดของภรรยานายเปรมชัย เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกับ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรฯ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535 มาตรา 19, 47 และ พ.ร.บ.ศุลกากรพ.ศ.2469 มาตรา 27, 27 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
ในชั้นสอบสวนทั้งสามให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย.558 นางคณิตดา และ น.ส.วันดี ได้ร่วมกันแจ้งต่อนักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ ว่า ได้ครอบครองงาช้าง (งช.1) ทั้ง 4 กิ่ง ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 อันเป็นทรัพย์มรดกของนางคณิตดาที่ได้มาตั้งแต่ปี 2530 โดยถูกต้อง ซึ่งมี น.ส.วันดี เป็นพยานถูกต้องทุกประการ
ซึ่งวันนี้ จำเลยทั้งสามซึ่งได้รับการประกันตัวระหว่างที่นาคดี ก็เดินทางมาพร้อมฟังคำพิพากษา ซึ่งนายเปรมชัย ก็ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยและยังคงใช้ไม้เท้าเดินประคองเหมือนเช่นเคยที่ผ่านมา
ขณะที่ "ศาล" พิเคราะห์พยานหลักฐานที่นำสืบแล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์มีเจ้าหน้าที่ศิลปากรได้เบิกความเกี่ยวกับอายุของงาช้างที่ได้ตรวจดูจากฐานไม้งาช้างทำขึ้นพิเศษ ซึ่งมีอายุมากกว่า 40 ปี โดยสอดคล้องกับคำให้การของจำเลยที่ 1 ได้ระบุว่ารับงาช้างตกทอดมาจากมารดาตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งมารดาของจำเลยนั้นก็ได้รับงาช้างมาเมื่อปี 2521และได้ยื่นแบบคำขอครอบครองไปโดยสุจริต ตามข้อความที่ได้ระบุ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่มีเจตนาปกปิดทำผิดตามฟ้อง ซึ่งคดีนี้ในชั้นสอบสวนก็ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด
ส่วนนายเปรมชัย จำเลยที่ 2 ถูกฟ้องเพราะมีชื่อเป็นเจ้าบ้าน และนางวันดี จำเลยที่ 3 ถูกฟ้องเพราะเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับรองการทำแบบคำขอตามที่จำเลยที่ 1 บอกว่าได้รับงาช้างมาจากมารดา เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นความผิด จำเลยที่ 2-3 จึงไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง พร้อมทั้งยกคำร้องที่ขอให้ริบงาช้าง 2 คู่ของกลางด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษา ทั้ง "นายเปรมชัย" และ "นางคณิตดา" ภรรยา ได้เดินทางกลับทันที โดยมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำพิพากษานี้เป็นคำวินิจฉัยศาลชั้นต้น ซึ่งอัยการสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือนนับจากวันที่มีคำพิพากษา โดยคดีนี้ เป็นคดีแรกด้วยที่ศาลพิพากษายกฟ้องนายเปรมชัย
ซึ่งก่อนหน้านี้ "นายเปรมชัย" ถูกพิพากษา จำคุก 16 เดือนไม่รอลงอาญา ในคดีอาญาหมายเลขแดง อ.63/2562 ของศาลจังหวัดทองผาภูมิ (คดีครอบครองซากสัตว์ป่า) กับจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา คดีอาญาหมายเลขแดง อ.13/2562 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 (เสนอสินบนเจ้าพนักงาน) และจำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญา คดีหมายเลขดำ อ.1144/2561 ของศาลอาญา (คดีครอบครองปืนไรเฟิล) ซึ่งทั้ง 3 คดีก็ยังอยู่ระหง่างกระบวนการยื่นอุทธรณ์คดี