ดีเอสไอรับคดี"นายทุน-นักการเมือง"ออกโฉนดรุกป่าต้นน้ำเชียงคานเมืองน่านกว่า 1,400ไร่ เป็นคดีพิเศษ
รับคดีพิเศษ"นายทุน-นักการเมืองร่วมจนท.รัฐ"ออกโฉนดรุกป่าต้นน้ำเชียงคานเมืองน่านกว่า 1,400ไร่ อธิบดีดีเอสไอ เผยพื้นที่ภูเขา-แนวสันเขา-ไม่พบร่อยรอยใช้ประโยชน์
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.64 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ลงพื้นที่บ้านดอนแท่น ต.เชียงคาร อ.เชียงกลาง จ.น่าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกลุ่มนายทุน นักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมกันบุกรุกป่าต้นน้ำ บริเวณพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำน้ำเลียบบ้านดอนแท่น พบบุคคลกลุ่มดังกล่าวมีพฤติการณ์เข้าไปยึดถือครอบครอง แผ้วถาง จับจองพื้นที่
และมีการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า มีการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 8 แปลง คือ โฉนดที่ดินเลขที่ 9373, 9374, 9375, 9376, 9383, 9389, 9388 และ 9356 เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ สำหรับสภาพพื้นที่ดังกล่าว มีลักษณะเป็นที่เขา พื้นดินเป็นก้อนกรวดเป็นแนวสันเขา ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า มีการออกโฉนดที่ดินแปลงข้างเคียงในบริเวณเดียวกันอีก50 ฉบับ รวมเนื้อที่ประมาณ 1,150 ไร่ และน่าเชื่อว่าจะออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายด้วย จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์และมีสภาพพื้นที่เช่นเดียวกัน รวมเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 1,400 ไร่
พ.ต.อ.กรวัชร์ กล่าวว่า ตนพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ออกโฉนดที่ดินและมีชื่อเป็นผู้ครอบครองโฉนดที่ดินทั้ง 58 แปลงดังกล่าว เป็นการกระทำเพื่อเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐหรือที่ป่า โดยใช้วิธีการออกโฉนดที่ดินเป็นเครื่องมือในการเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดิน เป็นการกระทำความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ประกอบมาตรา 108 ทวิ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี วรรคสอง และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ความมั่นคงของประเทศ อันมีลักษณะเป็นคดีความผิดทางอาญามาตรา 21 ตามพ.ร.บ.คดีพิเศษ ตนจึงมีคำสั่งให้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษและมอบหมายให้กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบทำการสอบสวนต่อไป