posttoday

แอสตร้าฯ เผย ส.ค. ส่งวัคซีนให้ไทย 5.3 ล้านโดส รวม 16.6 ล้านโดส

03 กันยายน 2564

แอสตร้าเซนเนก้า เผย ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ไทยแล้ว 16.6 ล้านโดส เฉพาะเดือน ส.ค. ส่งให้ 5.3 ล้านโดส คาดภายในสิ้นปีนี้ ส่งให้ได้ทั้งหมด 61 ล้านโดส

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 64 แอสตร้าเซนเนก้า เปิดเผยว่า ตลอดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทฯได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 5.3 ล้านโดส ให้กับกระทรวงสาธารณสุข รวมยอดส่งมอบวัคซีน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม เป็นจำนวนทั้งสิ้น 16.6 ล้านโดส ตามแผนการจัดหาวัคซีนให้กับประเทศไทย โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบวัคซีนจำนวน ทั้งหมด 61 ล้านโดส ได้ภายในสิ้นปีนี้

จำนวนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ส่งมอบในเดือนสิงหาคมนั้นเป็นไปตามแผนงานที่แอสตร้าเซนเนก้าได้ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะสามารถจัดสรรและส่งมอบวัคซีนให้กับประเทศไทยได้ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน

นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “แอสตร้าเซนเนก้าตระหนักถึงหน้าที่สำคัญในการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยสิ่งที่เราให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในขณะนี้ คือ การผลิตและส่งมอบวัคซีนที่มีคุณภาพ เพื่อปกป้องประชาชนชาวไทยและช่วยยังยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยความร่วมมือจากสยามไบโอไซเอนซ์ เราจึงสามารถผลิตวัคซีนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงส่งมอบวัคซีนที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพสูงได้ตามกำหนด ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการจัดหาวัคซีนให้กับประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

นับตั้งแต่มีการเริ่มใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าครั้งแรกในช่วงต้นปี 2564 วัคซีนได้สร้างประโยชน์อันยิ่งใหญ่ในการช่วยชีวิตผู้คนมากมายและป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 ในระดับที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิผลในการลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 และการเจ็บป่วยในระดับที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในทุกกลุ่มอายุได้มากถึง 80%-90% และยังมีประสิทธิผลครอบคลุมไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ต่างๆ ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุไว้ รวมถึงสายพันธุ์เบตาและสายพันธุ์เดลตา

ผู้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าสามารถทนต่อผลข้างเคียงของวัคซีนได้ดี มีการรายงานภาวะที่พบได้ยากคือลิ่มเลือดอุดตันผิดปกติร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia Syndrome หรือ TTS) เกิดขึ้นในระดับที่น้อยมากในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกภายใน 14 วัน และมีอัตราลดลงหลังการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง ซึ่งไม่แตกต่างจากอัตราที่พบในประชากรที่ไม่ได้รับวัคซีน

แอสตร้าเซนเนก้าและพันธมิตรผู้ผลิตได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 กว่าหนึ่งพันล้านโดสให้แก่ประเทศต่างๆ กว่า 170 ประเทศทั่วโลก โดย 2 ใน 3 ของจำนวนวัคซีนดังกล่าวได้ถูกส่งมอบให้กับกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำและกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนไปทางต่ำ

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า (ChAdOx1-S [Recombinant]) เดิมเรียก AZD1222 ถูกคิดค้นและพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและบริษัท วัคซีเทค ซึ่งก่อตั้งโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด วัคซีนดังกล่าวพัฒนาโดยการนำส่วนของสารพันธุกรรมที่ใช้ในการถอดรหัสการสร้างหนามโปรตีนผิวเซลล์ของไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 ใส่ในโครงของอะดีโนไวรัสซึ่งก่อให้เกิดโรคไข้หวัดทั่วไปในลิงชิมแปนซีที่ถูกทำให้อ่อนแรงลงและไม่สามารถแบ่งตัวได้ โดยหลังจากฉีดวัคซีนเซลส์ในร่างกายมนุษย์จะตอบสนองโดยการสร้างโปรตีนที่มีลักษณะเดียวกันกับหนามโปรตีนผิวเซลล์ของไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในกรณีที่ได้รับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายในภายหลัง