ใครคือทายาทการเมืองตระกูล"อัศวเหม"รุ่นต่อไป
ปัจจุบันทายาทการเมืองตระกูล “อัศวเหม” มีหลายคนแต่ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
โดย...สุทธิวิทย์ ชยุตม์วรกานต์
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ศาลจังหวัดสมุทรปราการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุกนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สมุทรปราการ 1 ปี 6 เดือน คดีทุจริตเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2542 สร้างความตกใจให้กับชาวสมุทรปราการ และชาวบ้านที่ให้ความเคารพนับถือนายชนม์สวัสดิ์ เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครคิดว่า นักการเมืองระดับทายาทคนดัง “วัฒนา อัศวเหม”อดีตรมช.มหาดไทย ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และมีคนรู้จักทั่วประเทศ จะต้องเจอกับมรสุมชีวิตที่ร้ายแรงที่สุด กับวิถีชีวิตทางการเมืองที่ถูกหักมุมอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้าหน้ากลุ่มฮาร์ดคอการเมืองหลายคนมองว่า เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลฎีกา ทำไมนายชนม์สวัสดิ์ ไม่หนี ทั้งที่รู้ดีว่า การมาขึ้นศาลในครั้งนี้ หากศาลฎีกาพิพากษาให้รอลงอาญา ก็ไม่ต้องติดคุก แต่ถ้าศาลพิพากษาจำคุก นั่นก็หมายถึงต้องถูกควบคุมตัวเข้าสู่เรือนจำทันที
แต่ทางทีมงานฝ่ายกฎหมายและผู้หลักผู้ใหญ่ น่าจะมองหาทางออกที่ดีที่สุด เพราะหากหนีคดี ก็คงต้องหนีไปตลอดชีวิต ภาพที่ออกสู่สายตาประชาชน ดูเหมือนจะเป็นคนไม่ดี แต่ถ้ายอมรับผิด ติดคุกไม่กี่ปี ก็พ้นโทษ หรือหากมีจังหวะและโอกาส ก็อาจจะขอพระราชทานอภัยโทษ ที่ต้องมีกระบวนการตามกฎหมาย และเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีความเห็นใจ มากกว่าที่จะซ้ำเติมให้ชีวิตย่ำแย่ ตามสุภาษิตโบราณว่า “คนล้ม อย่าข้าม” แต่การตัดสินใจของชนม์สวัสดิ์ในครั้งนี้ถือ ทำให้สังคมมองว่า เป็นลูกผู้ชายใจกล้า อกผายไหล่ผึ่งมากกว่า ที่ได้ยอมรับผิดตามคำพิพากษา
ในสมัยที่นายชนม์สวัสดิ์ ปฎิบัติหน้าที่นายกอบจ.สมุทรปราการ ได้สร้างผลงานเอาไว้มากมาย ทั้งตั้งงบประมาณกระจายลงทุกพื้นที่โดยผ่านส.อบจ. โดยมีผลงานโดดเด่นก็เห็นจะเป็นหอชมเมือง ซึ่งใช้งบประมาณร่วมกับเทศบาลนครสมุทรปราการ ที่สร้างใกล้จะเสร็จ บริเวณเรือนจำเก่าใกล้ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ และไม่นานมานี้ก็มีการวางศิลาฤกษ์ โครงการกระเช้าลอยฟ้าเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว บริเวณถนนท้ายบ้านข้ามฝั่งมายังอำเภอพระสมุทรเจดีย์ รวมทั้งยังมีโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการทำประชาวิจารณ์ ทำให้มองเห็นว่า อบจ.มีโครงการดีๆสู่ประชาชนมากมาย นั่นก็หมายถึงมีผลงานให้ชาวบ้านเห็นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
โดยบุคลิกทั่วไปของนายชนม์สวัสดิ์ เป็นคนอัธยาศัยไมตรีดี ยิ้มแย้มทักทายชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ซึ่งถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ไฟแรง มีแนวความคิดแบบคนสมัยใหม่ มีทีมงานและที่ปรึกษาที่มีคุณภาพ มีผลงานออกมาให้ชาวบ้านเห็นมากมาย แต่เมื่อเหตุการณ์บ้านการเมืองของจ.สมุทรปราการเกิดการพลิกผันแล้ว คงต้องมามองว่า จะมีใครบ้างที่จะเข้ามาทำหน้าที่สืบทอดทางการเมืองแทนนายชนม์สวัสดิ์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีการวางตัวไว้บ้างแล้ว
ปัจจุบันทายาทการเมืองตระกูล “อัศวเหม” มีหลายคน ทั้งนายวริทชนวีร์ อัศวเหม ประธานหอการค้าสมุทรปราการ นายพูลผล อัศวเหม นายกสมาคมกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ ก็น่าจับตามอง แต่ถ้าคลุกคลีทางการเมืองแล้ว น่าจะเป็นนายอัครวัฒน์ อัศวเหม ซึ่งเคยทำหน้าที่รองนายกอบจ.และปฏิบัติหน้าที่แทนนายชนม์สวัสดิ์ มาหลายครั้ง จนมีคนรู้จักมากมาย และถือเป็นคนเรียบง่ายเป็นกันเอง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ยังเป็นเพียง หลานของนายวัฒนา ไม่ได้เป็นทายาทสืบเชื้อสายโดยตรง
แต่ที่น่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ ก็น่าจะเป็น นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ที่เชื่อว่า น่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้อง ของชนม์สวัสดิ์ ซึ่งเคยทำหน้าที่รองนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ และมาช่วยงานที่อบจ.หลายครั้ง และดูเหมือนเป็นคนที่ นายชนม์สวัสดิ์ มีความเชื่อมั่น ผลักดันให้เข้าสู่การเมืองอย่างเต็มตัว ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็จะมีสายสัมพันธ์อันดีกับ “อัศวเหม”ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงมองได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นการเมืองท้องถิ่น ทั้งอบต.หรือเทศบาล ก็ได้มีการวางหมาก วางตัวไว้ทั้งหมด แต่ทุกอย่างถึงแม้ได้มีการวางหมากเอาไว้ แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอตามสถานการณ์ความจำเป็นที่เกิดขึ้น
ทำให้มองได้ว่า ถึงแม้ นายชนม์สวัสดิ์ จะถึงคราวที่ดวงตกหนักถึงกับติดคุกติดตะราง แต่ก็ยังมีสายใยของตระกูลอัศวเหม เกี่ยวโยงเป็นโครงข่าย ใยแมงมุม ทั่วทั้งสมุทรปราการ รวมทั้งเมื่อนายชนม์สวัสดิ์ ได้ทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว เชื่อว่า อีกไม่นานเมื่อพ้นโทษออกมา ก็สามารถกลับมาเล่นการเมืองได้อีก ถึงแม้จะติดเงื่อนไขเงื่อนเวลาทางการเมืองก็ตาม แต่ด้วยความที่อายุยังน้อย จึงมองถึงความเป็นไปได้ ที่ราชสีห์ จะมีโอกาสหวนกลับคืนบัลลังก์ ในภายภาคหน้าได้อีกครั้ง..ฮาร์ดคอการเมืองจ.สมุทรปราการ ก็ต้องลุ้นกันยาว