posttoday

ททท.ชวนดูเหยี่ยวนับแสนตัวบินอพยพหนีหนาวผ่านเขาเรดาห์บางสะพาน

29 กันยายน 2562

ประจวบคีรีขันธ์-ททท.ชวนดูสายธารเหยี่ยวนับแสนตัวอพยพหนีหนาวไกลกว่า 4,000 กม.บินผ่านเขาเรดาห์ บางสะพาน มุ่งหน้าสู่ทิศใต้ผ่านประเทศไทยไปอินโดนีเซีย

ประจวบคีรีขันธ์-ททท.ชวนดูสายธารเหยี่ยวนับแสนตัวอพยพหนีหนาวไกลกว่า 4,000 กม.บินผ่านเขาเรดาห์ บางสะพาน มุ่งหน้าสู่ทิศใต้ผ่านประเทศไทยไปอินโดนีเซีย

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.น.ส.โศรยา หอมชื่น ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ มอบหมายให้นายวรวิทย์ อุ่นจิตร พนักงานการตลาด 6 นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูเหยี่ยวอพยพ ช่วงต้นฤดูกาลที่เขาเรดาร์ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวชมเหยี่ยวอพพยที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงระหว่างปลายเดือนก.ย. ถึงเดือนพ.ย. เนื่องจากจะมีเหยี่ยวมากกว่า 2 แสนตัวบินอพยพหนีอากาศหนาวเย็นมายังประเทศไทย

ททท.ชวนดูเหยี่ยวนับแสนตัวบินอพยพหนีหนาวผ่านเขาเรดาห์บางสะพาน

ผศ.น.สพ.ดร.ไชยยันต์ เกษรดอกบัว ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน) และกลุ่มศึกษาเหยี่ยวและนกอินทรีในประเทศไทย (Thai Raptor Group) เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงปลายเดือนก.ย.ซึ่งฤดูกาลเหยี่ยวอพยพเริ่มต้นขึ้นแล้ว ขณะนี้พบว่า เหยี่ยวอพยพอย่างน้อย 4 ชนิด ได้เดินทางผ่านเขาเรดาห์ มุ่งหน้าผ่านภาคใต้ เพื่อบินต่อไปยังประเทศมาเลเซียอินโดนีเซียแล้ว

ทั้งนี้ ได้แก่ เหยี่ยวนกเขาชิครา เหยี่ยวนกเขาพันธุ์จีน เหยี่ยวผึ้ง และเหยี่ยวนกเขาพันธุ์ญี่ปุ่น ซึ่งช่วงเดือนต.ค.ทั้งเดือน จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับประชาชนที่จะมาร่วมชมเหยี่ยวอพยพ โดยจะมีเหยี่ยวอพยพบินผ่านมากกว่า 2 แสนตัว แต่เหยี่ยวที่พบเห็นยากเช่น เหยี่ยวดำใหญ่ จะอพยพมาจากประเทศจีน และญี่ปุ่นจะมีจำนวนไม่มาก

สำหรับ กิจกรรมดูเหยี่ยวอพยพใช้ชื่อว่า “สายธารเหยี่ยวอพยพ ( River of Raptors)” ระหว่างปลายเดือนก.ย.ถึงต้นเดือนพ.ย.2562 ที่สถานีทวนสัญญาณบ้านไชยราช หรือ เขาเรดาร์ ถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ กม. 431+800 มุ่งหน้าลงทิศใต้ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย เป็นจุดดูเหยี่ยวอพยพที่สำคัญในประเทศไทยและเป็นจุดที่จะพบฝูงเหยี่ยวหลากหลายสายพันธุ์ นกอพยพเหล่านี้บินไกลมาจากประเทศไซบีเรีย จีน มองโกเลีย เกาหลี และญี่ปุ่น โดยฝูงเหยี่ยวจะเดินทางระยะไกลกว่า 2,000-4,000กิโลเมตร (กม.) มุ่งหน้าสู่ทิศใต้ผ่านประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่า

ททท.ชวนดูเหยี่ยวนับแสนตัวบินอพยพหนีหนาวผ่านเขาเรดาห์บางสะพาน

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเขตอบอุ่นและเส้นศูนย์สูตรจึงเหมาะสมด้วยภูมิประเทศที่มีอ่าวไทยเป็นผืนน้ำขนาดใหญ่และเหยี่ยวอพยพจะเดินทางในเวลากลางวัน อาศัยลมร้อนหนุนส่งให้บินสูงขึ้น เพื่อมุ่งหน้าลงใต้ จึงพบเหยี่ยวอพยพจำนวนมาก ตามแนวชายทะเลอ่าวไทย เหยี่ยวหลีกเลี่ยงการบินเหนือผืนน้ำเพราะอาจจะหมดแรงบินไปไม่ถึงแผ่นดินข้างหน้า ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและไม่ควรพลาด โดยฝูงเหยี่ยวอพยพจะบินออกหาอาหารในช่วงกลางวันและรวมฝูงกันกลางอากาศนับร้อยนับพันตัว บินลอยละล่องบนท้องฟ้ากระจายออกเป็นเสมือนสายน้ำ ซึ่งน่าสนใจและหาดูได้ยากมาก

น.ส.โศรยา หอมชื่น ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าร่วมดูเหยี่ยวระหว่างปลายเดือนก.ย.ถึงต้นเดือนพ.ย.2562 เวลาที่เหมาะสมในการดูเหยี่ยวคือช่วงเวลา 07.00-11.00 น. และ 14.00 -17.00 น.โดยขอให้เตรียมอุปกรณ์ในการส่องนกกำลังขยาย 8 เท่า เช่น 8x32, 8x40, 8x42 (เหมาะสำหรับมือใหม่)

นายจีรภัทร วังกะ อายุ 18 ปี นิสิตคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ ชั้นปีที่1 ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ได้มีโอกาสมาชมเหยี่ยวอพยพเป็นครั้งแรก รู้สึกประทับใจมาก เพราะเป็นฝูงเหยี่ยวอพยพตามธรรมชาติ เป็นการเรียนรู้จากนอกตำราเรียน เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเหยี่ยวจากภูเขาสูงแบบนี้ ส่วนตัวชอบสัตว์ป่า แต่มีโอกาสสมัครมาร่วมกิจกรรมดูเหยี่ยวในครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยยอมรับว่าการดูเหยี่ยวค่อนข้างยาก ด้วยชนิด ความสูง และการบินร่อนไม่อยู่กับที่ แต่ได้ฝึกดูเทียบลักษณะกับตำราดูนกช่วยทำให้ง่ายขึ้น อยากชวนเยาวชนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจดูเหยี่ยวอพยพซึ่งเป็นปรากฎการทางธรรมชาติที่น่าสนใจ

ททท.ชวนดูเหยี่ยวนับแสนตัวบินอพยพหนีหนาวผ่านเขาเรดาห์บางสะพาน