posttoday

ทีมรักบี้โรงเรียนบ้านบาก นักสู้ "เท้าเปล่า" ชนะข้อจำกัดไปถึงฝัน

25 กันยายน 2559

พวกเขาต่อสู้จนมีวันนี้ และตั้งใจจะก้าวต่อไป เพื่ออนาคตที่ดีและโอกาสทางการศึกษาที่รออยู่ข้างหน้า

โดย...กษม จักรเครือ

สร้างชื่อกระหึ่มโลกออนไลน์สำหรับนักเรียนโรงเรียนบ้านบาก จาก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หลังแพ้วชิราวุธวิทยาลัย 5-15 ในรอบชิงชนะเลิศ คว้ารองแชมป์กีฬารักบี้ 7 คน ชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี ระดับดิวิชั่นสอง ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 จ.ปทุมธานี เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา

สิ่งที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ผลการแข่งขัน แต่นักกีฬาตัวน้อยชนะใจคนดูทั้งสนาม หลายคนไม่คุ้นชื่อโรงเรียนแห่งนี้ ทำไมผลงานถึงดีเยี่ยมระดับพรีเมียม โดยเฉพาะ “รักบี้” เป็นกีฬาสำหรับลูกผู้ชาย ที่มักจะผูกขาดแชมป์เพียงแค่โรงเรียนดังอย่าง ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย และวชิราวุธวิทยาลัย ขณะที่โรงเรียนบ้านบากเป็นตัวแทนภาคอีสานที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามา และผ่านเข้าสู่ระดับชิงแชมป์ประเทศ

จุดเริ่มต้นความสำเร็จเริ่มจากจุดเล็กๆ เมื่อมีครูผู้สอนคนหนึ่งที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับกีฬารักบี้มายาวนาน นามว่า “ท้าว-สุธรรม บุญยะผลึก” หรือ “คุณปู่ท้าว” ของเด็กๆ ชาวบ้านบาก

“ปู่ท้าว ถาปัด” เป็นอาสาสมัครวิทยากรอาวุโสรักบี้ฟุตบอลของไทย ที่ใจดีเสียสละลงทุนนั่งเครื่องจากกรุงเทพฯ มาให้ความรู้ สอนเทคนิคและทักษะในการเล่นรักบี้ฟุตบอลให้กับเด็กๆ ถึงที่ โดยสละเวลาและทุนทรัพย์ส่วนตัว และได้มาทำงานร่วมกับครูพลศึกษาของโรงเรียนอย่างครูธงชัย เมืองจันทร์ ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนมากกว่าอยู่บ้าน

“นักเรียนทั้งโรงเรียนมีไม่ถึง 100 คน” ธงชัย คุณครูพลศึกษาโรงเรียนบ้านบาก ผู้จุดประกายความหวังของเด็กๆ กล่าว

ทีมรักบี้โรงเรียนบ้านบาก นักสู้ \"เท้าเปล่า\" ชนะข้อจำกัดไปถึงฝัน

โรงเรียนสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึง ป.6 โดยนักเรียนใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนมาเล่นกีฬา ก่อนหน้านี้เล่นฟุตบอล กรีฑา แต่พอมารู้จักคุณปู่ท้าว ที่เอากีฬารักบี้มาเผยแพร่ นักเรียนหลายคนก็สนใจ เพราะไม่รู้ว่ากีฬาชนิดนี้เล่นอย่างไร เริ่มซ้อมเมื่อเดือน ก.ค. ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนวันจันทร์-ศุกร์มาซ้อมรักบี้กับเพื่อนๆ ทุกคนต้องนับหนึ่งทั้งครูทั้งเด็ก เพราะไม่มีใครรู้จักกีฬารักบี้ ส่วนใหญ่รู้จักแต่ฟุตบอลและกรีฑา และรักบี้เป็นกีฬาสำหรับลูกผู้ชาย

“พวกเราเพิ่งซ้อมกันมาแค่ 3-4 เดือน เวลาซ้อมเด็กบางคนไม่มีรองเท้า เพื่อนบางคนมี แต่ผมให้เด็กถอดรองเท้าทุกคน เพราะบางคนใส่ เวลาวิ่งแล้วไปเหยียบเท้าเพื่อน ทำให้เจ็บ ถึงเวลาแข่งจริงก็ยังมีรองเท้าไม่ครบ 7 คน ต้องอาศัยวนรองเท้ากัน แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งที่เหนือกว่าคือความมีวินัยและสามัคคี จุดนี้สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด และพวกเขาทำได้ดี คว้าแชมป์ภาคอีสานได้ไปแข่งรอบสุดท้ายที่ปทุมธานี เด็กๆ อยากเข้ากรุงเทพฯ ผมก็เลยบอกว่าหากคว้าแชมป์ผมจะพาไปวัดพระแก้ว พวกเขาดีใจกันใหญ่ เพราะเคยเห็นแต่ในทีวี” ครูธงชัย เล่าให้ฟัง

หลังจากได้เป็นตัวแทนของภาคอีสาน สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อคือ เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องชุดอุปกรณ์ ค่ารถ ค่าที่พัก เมื่อโรงเรียนไม่มีงบประมาณ ตรงนี้ทำให้ต้องระดมทุนจากหลายแห่ง ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์อย่างดี

“เดินทางจากบ้านบากเข้ากรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์เพื่อเตรียมแข่งขันช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ลูกรักบี้ที่ใช้ฝึกซ้อมมี 4 ลูกได้มาจากการบริจาค ขณะที่ชุดแข่งขันก็ได้น้องสาวที่มาเปิดร้านอยู่ในเมืองกรุงให้ความช่วยเหลือ ส่วนค่ารถมาจากทุนของโรงเรียนและรับบริจาค สำหรับที่พัก เนื่องจากไม่มีทุนเสียค่าโรงแรมคืนละ 1,500 บาท จึงติดต่อคนรู้จักขอพักที่โรงงาน ซึ่งเจ้าของโรงงานใจดีเลี้ยงอาหารเด็กทั้งเช้าเย็น วันแข่งเราก็เสียเปรียบเพราะเป็นเด็กชั้น ป.6 รูปร่างจึงเล็กกว่าคู่แข่ง แต่เรามาถึงจุดนี้ได้ถือว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย”

ทีมรักบี้โรงเรียนบ้านบาก นักสู้ \"เท้าเปล่า\" ชนะข้อจำกัดไปถึงฝัน ครูธงชัย เมืองจันทร์

เป้าหมายในอนาคตของบรรดาลูกศิษย์ ครูธงชัย มองว่า อยากให้เด็กทุกคนมีอนาคตทางการศึกษาที่ดีกว่านี้ อยากให้นักเรียนได้เรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาโดยใช้โควตานักกีฬา ตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากสถาบันใด วอนให้ผู้มีอำนาจพิจารณาเรื่องนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน ทางโรงเรียนก็วางแผนจะสนับสนุนและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีทีมหญิงควบคู่ไปด้วย และจะเริ่มสร้างตั้งแต่ ป.5 ส่วนทีมชายเริ่มสร้างตั้งแต่ ป.3 เพราะจะเป็นการปูพื้นฐานที่ดี สามารถต่อยอดให้พวกเขาได้รับโอกาสในการศึกษา

สุระโยธิน เชื้อวังคำ หัวหน้าทีมรักบี้ของโรงเรียนบ้านบาก เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่รู้อนาคตว่าจะได้เรียนต่อหรือไม่ แต่ดีใจที่ได้สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนและจังหวัด

“ดีใจที่เราทำความฝันสำเร็จ ไม่มีใครคิดว่าพวกเราจะทำได้ ผมจะจบป.6 ในเทอมหน้า ผมอยากเรียนต่อ ผมชอบกีฬารักบี้ ได้เล่นสนุก มีเพื่อนมาก ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะให้เรียนต่อหรือไม่ พวกเขาอยากให้ผมมาช่วยทำนามากกว่า แต่ผมบอกคุณครูว่าผมอยากเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัด มันคือความฝันของผม หากได้เรียนและเล่นรักบี้ควบคู่กันไป” เด็กชายวัย 12 ปี กล่าว

พวกเขาต่อสู้จนมีวันนี้ และตั้งใจจะก้าวต่อไป เพื่ออนาคตที่ดีและโอกาสทางการศึกษาที่รออยู่ข้างหน้า และเป็นแรงจูงใจให้เด็กในเมืองที่เพียบพร้อมทั้งจิตใจและวัตถุได้เห็นว่าวินัยและความสามัคคีเอาชนะขีดจำกัดได้เสมอ

ทีมรักบี้โรงเรียนบ้านบาก นักสู้ \"เท้าเปล่า\" ชนะข้อจำกัดไปถึงฝัน