posttoday

เลือกตั้ง66:อาสาประสานทุกฝ่าย เรื่อง ทักษิณ ให้ว่าตามกระบวนการยุติธรรม

30 มีนาคม 2566

พรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวส.ส.400 เขต ปาตี้ลิสต์ 92 คน ดันนโยบาย สวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ เศรษฐกิจประชารัฐ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามความจน ประวิตร ยกคนไทยทุกคน เป็นครอบครัวเดียวกัน อาสา ประสานกับทุกฝ่าย ไม่พูดเรื่อง ทักษิณ กลับบ้าน ชี้ เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม

วันที่30มี.ค. ที่บางกอกอารีน่า หนองจอก กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดงานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศ และว่าที่ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเปิดนโยบายพรรคพลังประชารัฐ การจัดงานครั้งนี้นำโดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 92 คน โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนร่วมรับฟังการปราศรัยและการเปิดตัวครั้งนี้เป็นจำนวนมาก บรรดาว่าที่ผู้สมัครส.ส.จะนำนโยบายของพรรคไปหาเสียง จากนั้นได้เปิดวีทีอาร์แนะนำนโยบายพรรคพลังประชารัฐที่จะมุ่งฟื้นเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาครบทุกมิติให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วย”นโยบาย 3 เร่งด่วน 8 เร่งรัด” 3 นโยบายเร่งด่วน  ได้แก่ 1. แก้หนี้ประชาชน ผู้ประกอบการให้เบ็ดเสร็จ เติมทุนด้วยวิธีใหม่ ควบคู่สร้างโอกาสใหม่ โดยทำทันที  2. ดูแลสวัสดิการ เสริมทักษะ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  3. การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย 

สำหรับ 8 นโยบายเร่งรัด วางรากฐานเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1.ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมภาคการเกษตร วิสาหกิจชุมชนเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว 2.ยกเครื่องภาคอุตสาหกรรมเดิม สู่เศรษฐกิจใหม่ในอุตสาหกรรม S-curve เพื่อขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจ BCG  3. เร่งพัฒนาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ ทั้งอีอีซี และขยายพื้นที่ยุทธศาสตร์ใหม่  4. ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทุกระบบทั้งถนน ราง น้ำ และอากาศ รวมถึงพัฒนาโครงเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่การต่อยอดพร้อมเพย์ และเป๋าตังค์ ให้คนไทยเข้าสู่ Digital Economy อย่างแท้จริง 5. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งระดับปวช. ปวส. ให้เรียนฟรีมีงานทำ พัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมแหล่งงาน เพื่อสร้างรายได้ระหว่างเรียน ส่วนแรงงานเดิมจะส่งเสริมเข้าโปรแกรมเพิ่มทักษะให้สอดรับกับอุตสาหกรรมสมัยใหม่  6.ปฎิรูประบบราชการ แก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เพื่อส่งเสริมให้เกิดเอสเอ็มอีที่มีความเข้มแข็ง 7.ปฏิรูประบบงบประมาณ กระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น สู่การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อเข้าสู่งบประมาณสมดุลในระยะยาว เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนพื้นที่ได้อย่างตรงจุด และ8. ต่อต้านคอร์รัปชั่นเต็มรูปแบบ สร้างระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เพิ่มโทษนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชันเป็นสองเท่า รวมถึงใช้เงินดิจิทัล มีเทคโนโลยีบล็อคเชนที่จะนำมาใช้ในโครงการประมูลภาครัฐขนาดใหญ่ มีกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท 

จากนั้นได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั้ง400 เขต และว่าที่ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออีก92 คน พล.อ.ประวิตร ขึ้นปราศรัยนโยบายว่า พรรคพลังประชารัฐยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่าเราพร้อมแล้ว ที่จะรับใช้ประชาชนทุกคน คนไทยทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่น้องร่วมชาติที่มีสายเลือดเดียวกัน ที่ผ่านมาประเทศของเราพัฒนาได้ยาก เพราะเกิดความขัดแย้งและแตกแยก จึงขอเชิญชวนทุกคน มาร่วมใจกันก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้วยความรักและความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะประสานประโยชน์กับทุกฝ่ายพร้อมที่จะนำความรักความสามัคคี นำสู่ประเทศชาติของเราอย่างยั่งยืนตลอดไป คนไทยทุกคนต้องรักกันสามัคคีกัน เป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศชาติและประชาชนเมื่อเราก้าวข้ามความขัดแย้งได้เราจะมีพลังที่จะก้าวข้ามความยากจนต่อไปด้วย หากเรามีความขัดแย้งอยู่ความยากจนก็จะมา

"การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของประชาชนทั้งหลายที่จะให้พรรคใดมาบริหารประเทศ พรรคพลังประชารัฐนำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากมาย พรรคพลังประชารัฐคิดเรื่องเศรษฐกิจทั้งหมดมาบริหารประเทศ ถ้าเราได้รับเลือกเป็นที่ 1 เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ทันที วันที่14 พฤษภาคมนี้ เราจะก้าวข้ามความขัดแย้งและก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกันเลือกพรรคพลังประชารัฐทั้งคนทั้งพรรค"พล.อ.ประวิตรกล่าว

ต่อมาพล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากประชาชน แสดงว่า มันใจว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ใช่หรือไม่ พล.ประวิตร กล่าวว่า เราก็แก้ไขให้ประชาชนคนไทยเป็นหนึ่งเดียว 
ถามว่า การที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับมา อยู่ในการก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ขอพูดถึง เพราะเขาถูกลงโทษไม่ใช่หรอ ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม
ถามว่า หวังว่าจะได้กี่ที่นั่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ขอให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ 
ถามอีกว่า จะผลักดันให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องได้จำนวน ส.ส. 120 ขึ้นไป ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่ พร้อมกล่าวว่า นี่จะเดินไม่ได้อยู่แล้ว