เลือกตั้ง66: แพทองธาร ลุยหาเสียงขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่หลังคลอดบุตรชาย
แพทองธาร ควงสามีโชว์ตัวสื่อมวลชนครั้งแรกหลังคลอดบุตรชาย ยืนยัน12พ.ค.66 พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ให้ประชาชนตัดสินใจเลือกเพื่อไทย ทักษิณอยากกลับมาเลี้ยงหลานเป็นความหวัง ไม่ได้อยากกลับมาเป็นนายกฯ เมินโพลก้าวไกลพุ่ง เชื่อแลนด์สไลด์ไม่สะดุด
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.66 ที่โรงพยาบาลพระราม 9 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีแถลงหลังคลอดบุตรชาย (พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์) โดยมีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์มารดาและนางสาวพินทองทา คุณากรวงศ์ พี่สาวร่วมด้วย
ก่อนเริ่มแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้พาน้องธาษิณ ซึ่งอยู่ในตู้อบทารกแรกเกิด ออกมาให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพ ก่อนที่นางสาวแพทองธาร จะเริ่มตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการคลอดน้องธาษิณว่า ใช้วิธีการผ่าคลอด เนื่องจากมีเหตุขัดข้อง หมอจึงแนะนำว่าผ่าคลอดจะปลอดภัยที่สุด จึงตัดสินใจผ่าคลอดไม่มีฤกษ์ ทันทีที่ได้ยินเสียงลูกร้อง น้ำตาก็ไหลเลยทั้ง 2 ข้าง ดีใจที่แข็งแรงและปลอดภัยดี เพราะตนก็กลัวเรื่องการผ่าคลอดมาก
ส่วนชื่อน้องตั้งเองกับมือ เป็นส่วนผสมของชื่อคนในครอบครัวทั้งคุณหญิงพจมาน และนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งภูมิใจมาก แม้จะไม่ได้มีความหมายอะไร แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส ชอบชื่อที่ผูกพันกับคนในบ้านมากกว่า ดูแล้วอบอุ่นดี มาจากความชอบมากกว่าเรื่องความหมาย
ส่วนหน้าตาของน้องธาษิณ ที่หลายคนบอกว่าหน้าเหมือนนายทักษิณ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ความจริงแล้วนายทักษิณ ได้พูดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ลูกผู้ชายมักจะหน้าเหมือนแม่ เมื่อหน้าเหมือนแม่ก็จะหน้าเหมือนคุณตาด้วย ซึ่งตนก็มองไม่ออกว่าหน้าเหมือนใครกันแน่ อย่างไรก็ตาม คาดว่า 4-5 เดือน น่าจะพาหลานไปหาคุณตาได้
ทักษิณอยากกลับมาเลี้ยงหลาน ไม่ได้อยากกลับมาเป็นนายกฯ
เมื่อถามว่านายทักษิณ ได้โพสต์ข้อความอยากกลับมาเลี้ยงหลาน เจอกันเร็วๆนี้ นางสาวแพทองธาร มองเป็นเรื่องที่ครอบครัวทุกคนตื่นเต้น เพราะเป็นหลานคนที่ 7 ซึ่งคุณพ่อก็คงตื่นเต้นมากๆ และคงหวังอยากจะมีโมเม้นอยู่หน้าห้องคลอด ตนก็เคยวางแผนว่าจะไปคลอดประเทศที่พ่ออยู่ เพื่อให้มีความรู้สึกมาเฝ้าลูกคลอด เพราะคุณตาก็คงอยากเห็นหลานในวันที่คลอด แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
เมื่อถามว่า นายทักษิณ พูดถึงเรื่องกลับบ้านหลายครั้ง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตนมองเป็นเรื่องของความหวังมากกว่า แน่นอนในสิ่งที่เขาพูดอาจจะเอฟเฟคในเรื่องของการเมือง แต่ในเรื่องทางครอบครัว มันไม่ผิดที่จะหวัง โดยเฉพาะในวันที่บ้านมีเรื่องดีๆ และส่วนตัวก็ยังไม่ได้คุยกับพ่อเรื่องกลับบ้าน ทุกวันคุยกันแต่เรื่องของหลาน
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย กำลังเดินสายหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย การประกาศกลับบ้านของคุณทักษิณ อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือฐานคะแนนเสียงบางส่วน นางสาวแพทองธาร มองการกลับบ้านของพ่อไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่ามันแยกยากเพราะนายทักษิณ เป็นคนก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แต่ในความเป็นลูกของตนตอนนี้ก็ไม่สามารถบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกันได้ มันจึงเป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันมา ที่สำคัญคุณพ่อพูดตลอดว่าอยากกลับมาเลี้ยงหลานแต่ไม่เคยบอกว่าอยากกลับมาเป็นนายกฯ นี่คือเรื่องจริง แล้วมันไม่เกี่ยวกันเลย แต่บางคนก็พยายามผูกให้มันเกี่ยวกัน
“ขอให้เข้าใจพื้นฐานความเป็นมนุษย์ว่ามนุษย์ต้องมีความหวังนายทักษิณ ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีที่ท่านยังมีความหวังอยู่ เพราะมันจะส่งผลต่อสุขภาพ จิตใจยังดี คนที่เชียร์ก็มีความหวังไปด้วย”
เมื่อถามว่าโพลชี้กระแสความนิยมของพรรคก้าวไกล เพิ่มมากขึ้นจะมีผลกระทบกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า โพลบางอันก็เชื่อถือได้ บางอันก็เชื่อถือไม่ได้ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ แต่ตนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเปลี่ยนประเทศ ไม่ใช่เลือกไปแล้วต้องรออีก 4 ปีแล้วค่อยเปลี่ยน เรารอไม่ได้อีกแล้ว จะเหมือนปี 2562 ที่ได้เสียงข้างมาก แต่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล
ส่วนกระแสของพรรคก้าวไกลที่เพิ่มขึ้นอาจจะทำให้แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยสะดุด นางสาวแพทองธาร บอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญมากที่ต้องเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์ ตอนนี้เหลือเวลาอีก 10 กว่าวัน ทุกพรรคต้องทำเต็มที่ เราก็ทำเต็มที่เหมือนกัน
เมื่อถามถึงกระแสตัวบุคคลที่สูงขึ้น เช่นหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะต้องมีการปรับกลยุทธ์อะไรหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ถ้าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ก็พร้อมลุยเต็มที่ ต้องนำเสนอตัวเองให้ประชาชนตัดสินใจ ออกไปพบประชาชนให้ได้มากที่สุด เรามีแคนดิเดตนายก 3 คนที่ พร้อมทำเพื่อประชาชน ส่วนใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “ทุกคนมีความพร้อม”
ไม่จับมือ2ป.
ส่วนเรื่องการจับขั้วกับพรรคอื่นๆ ยืนยันเป็นการปั่นกระแส ที่ผ่านมาทุกคนในพรรคยืนยันชัดเจน ว่าจะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนจึงมองว่าเป็นเทคนิคทางการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ พร้อมปฎิเสธเรื่องการถือหุ้นสื่อฯ เบื้องต้นฝ่ายกฎหมายตรวจสอบแล้วและมั่นใจเพื่อไทยยังแลนด์สไลด์ ขณะเดียวกันก็มีความเห็นสอดคล้องกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน เรื่องของนโยบายไม่เอากัญชาเสรี และสิ่งที่นายเศรษฐาตอบหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกุล ส่วนตัวก็เห็นด้วยทั้งหมด
ศรีสุวรรณว่างมากอยากฟ้องเชิญ
เมื่อถามถึงกรณีที่เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้เดินทางไปยื่นให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย กรณีไลน์หลุด โอนเงินให้คนเสื้อแดงช่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีกระแสว่าเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า มองเป็นเทคนิคหนึ่งในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ยืนยัน พรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวล หากนายศรีสุวรรณ ว่างมากก็เชิญ ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ มองว่า หากว่างมีเวลาเหมือนนายศรีสุวรรณ ก็จะฟ้องกลับ แต่ส่วนตัวมั่นใจ ไม่มีโทษถึงยุบพรรคเพื่อไทย
พร้อมหาเสียงขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่
ทั้งนี้ คาดว่าอีก 1-2 วัน น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ จะลงพื้นที่หาเสียงเลยหรือไม่ได้บอกทีมงานของพรรคเพื่อไทยว่าพร้อมเสมอ แต่อย่างไรก็ตามวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ที่จะมีการปราศรัยใหญ่ที่กรุงเทพฯจะไปแน่นอน ขณะที่การขึ้นเวทีดีเบตก็ยินดีที่จะเปิดวิสัยทัศน์ อย่างไรก็ตามอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิ์ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ตนและครอบครัวจะไปใช้สิทธิ์แน่นอน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่น ก่อนจะย้ำว่าพรรคเพื่อไทยคือคำตอบที่ดีที่สุดในเวลานี้