New gen politic:พัชรนันท์ โกศลสมบัตินนท์ พรรครวมไทยสร้างชาติ กับสนามกทม.
หน้าใหม่ทางการเมือง แก้ม-นส.พัชรนันท์ โกศลสมบัตินนท์ ผู้สมัครส.ส. เขต9 กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงสนามครั้งแรก ต้องเจอกับแชมป์เก่า ผู้สมัครเจนใกล้กันหลายต่อหลายพรรค ที่ต้องฝ่าฟันหลายด่าน หากจะเข้าไปทำงานในสภาฯ แต่เจ้าตัวก็ไม่ย่อท้อ พร้อมสู้ พร้อมลุยเต็มที่
เป็นอีกผู้สมัครหน้าใหม่ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ ได้ร่วมสนทนา แลกเปลี่ยน แนวคิด มีหลายมุมมองที่น่าสนใจ แก้ม-นส.พัชรนันท์ โกศลสมบัตินนท์ ผู้สมัครส.ส. เขต9หลักสี่ (แขวง ตลาดบางเขน) เขตบางเขน (แขวงอนุสาวรีย์) และเขตจตุจักร (แขวงเสนานิคม และแขวงจันทรเกษม) กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ
ที่มาที่ไปก่อนเข้าสนามการเมือง
แก้ม-นส.พัชรนันท์ แนะนำตัวพร้อมฉายประวัติเบื้องต้นว่า เป็นผู้สมัครส.ส. เขตหลักสี่ (แขวง ตลาดบางเขน) เขตบางเขน (แขวงอนุสาวรีย์) และเขตจตุจักร (แขวงเสนานิคม และแขวงจันทรเกษม) กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ วัยเพียง34ปี เป็นคนพื้นที่ เรียนโรงเรียนในพื้นที่มาตั้งแต่เด็กๆ เริ่มศึกษาชั้นอนุบาลที่โรงเรียนอมายตยกุลในเขตบางเขนและต่อประถมศึกษาที่โรงเรียนไผทอุดมศึกษา เป็นโรงเรียนชื่อดังของเขตหลักสี่ จบชั้นมัธยมศึกษาสายวิทย์-แพทย์จากด้วยเกรดเฉลี่ย 3.97 จาก โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นพระเกี้ยวทองคำ
ไม่ใช่เด็กเนิร์ด แต่อยู่ในห้องเด็กเรียนดีมาตลอด ชอบทำกิจกรรมจึงทำให้มีเพื่อนหลายกลุ่ม เป็นเชียร์ลีดเดอร์ เป็นนักร้องหญิงประจำวงดนตรีแข่งขั้นทั้งในและนอกโรงเรียนมาตลอด เมื่อเข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัย ตัดสินใจเลือกเรียนที่ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (หลักสูตรนานาชาติ) และคว้าดีกรีเกียรตินิยมปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จาก Manchester Business School มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ (University of Manchester) ตอนเรียน เลือกที่จะทำงาน Part-time ไปด้วย ได้ลองทำงานหลายบทบาท ตั้งแต่ แคชเชียร์ พนักงานเสิร์ฟประจำร้านอาหาร ขายเครื่องดื่มในสนามฟุตบอล รวมถึงอุทิศเวลาเพื่อทำงานให้กับองค์กรไม่หวังผลกำไรระดับโลกอย่าง Oxfam ที่ประเทศอังกฤษ
มีประสบการณ์การทำงานมากกว่าสิบปีในบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ บริษัทเอเจนซี่โฆษณาระดับอินเตอร์ บทบาทนักการตลาดในบริษัทอสังหาริมทรัพย์และวงการสตาร์ทอัพชั้นนำของประเทศไทย ทำให้ มีโอกาสได้ทำงานกับผู้คนหลากหลายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่ไม่หวังผลกำไร อย่างเช่น การจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และรพ.ศิริราช ก็เป็นหนึ่งในโปรเจคที่ช่วยชีวิตคนได้ในช่วงวิกฤต
เคยช่วยงานการเมืองมาก่อน
ถ้าพูดถึงมุมการทำงานการเมือง ก่อนหน้าก็เคยทำงานอยู่เบื้องหลังทีมนโยบายและหาเสียงของ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครหรือส.ก. มาก่อน มีโอกาสลงพื้นที่หาเสียงรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนอย่างใกล้ชิด ประสานงานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง แล้วค้นพบว่าเรามีความสุขกับงานนี้
การมาร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติ
พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคที่เปิดรับแนวคิดของคนหลาย generation สามารถอยู่ด้วยกันได้ ไม่ได้แบ่งแยก รุ่นใหม่ รุ่นเก่า มีแต่รุ่นเก๋ากับรุ่นใหม่ร่วมกันทำงาน และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเคตนายกรัฐมนตรีของพรรค สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี มีผลงานตลอดที่จับต้องได้ ทั้งโครงข่ายรถไฟฟ้า แอปเป๋าตังค์ ที่ช่วยคนตัวเล็กๆ ในการจับจ่ายใช้สอย โครงการคนละครึ่ง โครงการเที่ยวด้วยกัน พาประเทศไทยต่อสู้ในช่วงวิกฤตต่างๆ เช่น วิกฤตสงคราม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตโควิด จนสามารถเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ พลเอกประยุทธ์ เป็นคนที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน ไม่คิด กำไร ขาดทุน ไม่ขายฝัน เกินความเป็นจริง ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นไปได้
ความมุ่งหวังที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
อยากเห็นการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องไม่สะดุด ในฐานะผู้หญิงคนรุ่นใหม่ ให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินและการรักษาสุขภาพเป็นพิเศษ มองว่าสถานการณ์โลกในปัจจุบันนั้นไม่แน่นอน ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด ภาวะสงคราม ทำให้ความมั่นคงและเสถียรภาพของแต่ละประเทศไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นการมีสุขภาพกายที่แข็งแรงและสุขภาพใจที่ดี จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการดำรงชีวิต ในขณะเดียวกันทุกคนควรรู้จักออมเงินตามเป้าหมายชีวิต เก็บเงินสำรองเพื่อฉุกเฉิน ลงทุนให้เป็นเพื่อสร้างความมั่นคั่งในชีวิต โดยเฉพาะกับประชาชนกลุ่มเปราะบาง อยากให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
เชื่อว่าการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องด้วยนโยบายที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ประกอบกับนโยบายใหม่ ๆ ที่ท่านนายกพลเอกประยุทธ์ และทีมงานพรรครวมไทยสร้างชาติมีความตั้งใจจะทำต่อ อย่างเช่น ใช้เทคโนโลยีปรึกษาแพทย์ได้ 24 ชม. (Telemedicine) นโยบายคลีนิคคนชราทุกอำเภอ และให้อาชีพฟรีแลนซ์ พาร์ทไทม์ มีประกันสังคมถ้วนหน้า เพิ่มการคุ้มครองมีประกันชีวิต เพิ่มเงินสมทบรัฐ ซึ่งล้วนเป็นนโยบายที่ใช้พัฒนาประเทศในทุกด้าน โดยไม่ทำเพื่อคนกลุ่มเดียวหรือทิ้งใครเอาไว้ข้างหลัง
นโยบายพรรค คาดว่าตอบโจทย์ ประชาชน สังคม
นโยบายที่สนใจและมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน คือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประเทศไทยได้รับการยกย่องจาก องค์กรอนามัยโลก(WHO)ว่า มีชื่อเสียงในการบริหารจัดการโควิด-19 ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ปัจจุบันดึงดูดผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามา พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งเป้าสร้างรายได้ต่อปี ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจมีเงินหมุนเวียนในระบบ กระจายสู่ภาคบริการที่เกี่ยวข้อง เดินทาง โรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของ คาดว่ายังช่วยสร้างงานไม่ต่ำกว่า 1,000,000 ตำแหน่งในอนาคต
หนึ่งในจุดแข็งเขตที่ลงเลือกตั้ง
ในพื้นที่หลักสี่-บางเขน-จตุจักร มองว่า มีข้อได้เปรียบ คือ มีสถานพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลซีจีเอช โรงพยาบาลเปาโลเกษตร อยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมือง ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ (strategic location) สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้คนเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกสบายนำมาซึ่งการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศและประชาชนได้
สุดท้ายนี้ก็อยากชวนทุกคนไปเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 นี้ ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. สังเกตุความแตกต่างของบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ใบ ใบสีเขียว เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ กาเบอร์ 22 ให้ พรรครวมไทยสร้างชาติ และใบสีม่วง เลือก ส.ส.เขต หลักสี่-บางเขน-จตุจักร กาเบอร์ 7 ให้ แก้ม พัชรนันท์ ผู้หญิงคนรุ่นใหม่ จริงจังจริงใจ พร้อมดูแลพี่น้องประชาชน
"เชื่อว่าการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องด้วยนโยบายที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ประกอบกับนโยบายใหม่ๆ ที่พลเอกประยุทธ์ และทีมงานพรรครวมไทยสร้างชาติมีความตั้งใจจะทำต่อ อย่างเช่น ใช้เทคโนโลยีปรึกษาแพทย์ได้ 24 ชม.(Telemedicine) นโยบายคลีนิคคนชราทุกอำเภอ และให้อาชีพฟรีแลนซ์ พาร์ทไทม์ มีประกันสังคมถ้วนหน้า เพิ่มการคุ้มครองมีประกันชีวิต เพิ่มเงินสมทบรัฐ ซึ่งล้วนเป็นนโยบายที่ใช้พัฒนาประเทศในทุกด้าน โดยไม่ทำเพื่อคนกลุ่มเดียว หรือทิ้งใครเอาไว้ข้างหลัง"