หนุ่มญี่ปุ่นแทงตัวเองเพื่อจะได้ไม่ต้องไปทำงาน

ในเช้าวันธรรมดาพนักงานบริษัทคนหนึ่งตัดสินใจแทงตัวเอง เพราะไม่อยากไปทำงาน เนื่องจากความเครียด และความกดดันที่ต้องเผชิญในบริษัท

ถ้าคุณผู้อ่านตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและรู้สึกเหนื่อยหน่ายที่จะไปทำงาน คุณอาจจะโทรไปขอลาป่วยกับเจ้านายของคุณ แต่ไม่ใช่กับชายชาวญี่ปุ่นคนนี้เพราะเขาเล่นยากกว่านั้นด้วยการสร้างสถานการณ์ขึ้นมา

พนักงานบริษัทวัย 54 ปีรายหนึ่งจากเมืองไคสุกะ ในจังหวัดไอชิ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมหลังตัวเขาสารภาพว่าได้แทงตนเองที่สะโพก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปทำงาน หลังก่อนหน้านี้ตัวเขาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกแทงโดยคนแปลกหน้า

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พนักงานบริษัทคนดังกล่าวตัดสินใจใช้มีดทำครัวขนาด 13 เซนติเมตรแทงเข้าไปที่สะโพกข้างซ้ายของตน ภายในห้องน้ำของสถานีรถไฟ Nagoya จากนั้นเขาก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขาถูกคนแปลกหน้าทำร้ายร่างกายในขณะที่กำลังยืนปัสสาวะ

เมื่อตำรวจมาถึงเขาเห็นชายคนดังกล่าวพยายามที่จะห้ามเลือดจากแผลที่มีขนาด 2.5 เซนติเมตร ตำรวจสอบถามข้อมูลหลายอย่าง และเริ่มสงสัยในเหตุการณ์จริงๆ และเมื่อซักถามมากขึ้น ในที่สุดเขาก็ยอมสารภาพความจริงว่าเขาแทงตัวเอง เนื่องจากไม่ต้องการไปทำงาน

"ผมไม่อยากไปทำงาน ผมเลยทำมัน" เขากล่าว "ถ้าผมได้รับบาดเจ็บ ผมจะหยุดงานได้" แน่นอนว่าตัวเขาไม่ได้ไปทำงานในวันนั้นจริงๆ แต่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีนัก เพราะเขาถูกตั้งข้อหาแจ้งความเท็จไปเต็มๆ ทั้งนี้ชายผู้ไม่อยากไปทำงานเล่าให้ฟังว่า ตัวเขานั้นรู้สึกเครียด และกดดันมากในที่ทำงาน จึงนำมาสู่เรื่องราวดังกล่าว

ปัญหาการทำงานที่หนักเกินไป เป็นหนึ่งในปัญหาที่เรื้อรังของประเทศญี่ปุ่น ในปี 2015 มีชาวญี่ปุ่นราว 2,000 คนตัดสินใจฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากความเครียดจากการทำงาน จากสถิติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ล่าสุดบางบริษัทในญี่ปุ่นได้เพิ่มวันหยุดจาก 2 วันเป็น 3 วันต่อสัปดาห์ ให้แก่พนักงาน หลังเกิดกรณีที่พนักงานหญิงวัย 24 ปี ฆ่าตัวตายเมื่อวันคริสต์มาสที่ผ่านมา หลังทำงานหนักเกินเวลามากกว่า 100 ชั่วโมงต่อเดือน