"มหาเธร์" ชนะเลือกตั้งมาเลย์ครั้งประวัติศาสตร์
'มหาเธร์' โค่น 'นาจิบ' สร้างประวัติศาสตร์นำพรรคฝ่ายค้านคว้าเสียงข้างมากในสภาครั้งแรกรอบ 60 ปี
'มหาเธร์' โค่น 'นาจิบ' สร้างประวัติศาสตร์นำพรรคฝ่ายค้านคว้าเสียงข้างมากในสภาครั้งแรกรอบ 60 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไปในมาเลเซีย เมื่อวานที่ผ่านมา ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 92 ปี สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับการเมืองมาเลเซียนำพรรคฝ่ายค้าน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเหนือพรรครัฐบาล ของนายนาจิบ ราซัค ได้อย่างถล่มทลาย
รายงานระบุว่า ผลอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการเลือกตั้งมาเลเซียปรากฎว่า พันธมิตรฝ่ายค้านมาเลเซีย หรือ ปากาตัน ฮาราปัน (PH) ครั้งประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการโค่นล้มพรรคบาริซัน เนชั่นแนล หรือ BN ซึ่งครองเสียงข้างมากในสภามาโดยตลอดเกือบ 60 ปี นับตั้งแต่ที่เมเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ
โดยแนวร่วมฝ่ายค้านในนามปากาตัน ฮาราปัน รวมกับพรรคการเมืองหนึ่งในรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียวซึ่งเป็นพันธมิตรกัน ได้รับที่นั่งในสภารวมทั้งสิ้น 115 ที่นั่ง เกินกว่าเสียงข้างมากในสภา 112 ที่นั่งที่จำเป็นต้องได้รับเพื่อจัดตั้งรัฐบาล
ภายหลังการทราบผลการนับคะแนน ดร.มหาเธร์ได้กล่าวแถลงข่าวระบุว่า การเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ต้องการแก้ไข ไม่แก้แค้น เพื่อหวังกอบกู้หลักนิติรัฐของมาเลเซีย ทั้งนี้สำหรับคดีอื้อฉาวของนายนาจิบ ราซัค มีขึ้นหลังจากที่ถูกกล่าวหาว่า ยักยอกเงินการลงทุนแห่งชาติ หรือ 1MDB ที่รัฐบาลของเขาตั้งขึ้นเองเป็นจำนวน 700 ล้านเหรียญเข้ากระเป๋าตัวเอง
ศึกครูล้างศิษย์ ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
ทั้งนี้สำหรับดร. มหาเธร์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยาวนานถึง 22 ปี ตั้งแต่ปี 1981 - 2003 ได้ประกาศแยกทางกับ BN เมื่อปี 2016 ด้วยเหตุผลไม่อยากอยู่กับพรรคที่สนับสนุนการคอร์รัปชั่นและหันมาโจมตีนายนาจิบที่เคยเป็น "ลูกรักเก่า"
โดยดร.มหาเธร์ได้หันไปจับมือกับพรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน ที่นำโดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งก็เคยเป็นอดีตคู่แค้น และปัจจุบันถูกจำคุกด้วยข้อหาคดีรักร่วมเพศ ซึ่งเจ้าตัวระบุเป็นคดีการเมือง ดูเหมือนการหันมาคืนดีกับของมหาเธร์กับนายอันวาร์ในครั้งนี้จะทำให้ความบาดหมางของทั้งสองที่มีมานานกว่า 20 ปี สิ้นสุดลง และการตัดสินใจหวนคืนสู่การเมืองของดร.มหาเธร์ สามารถโค่นอำนาจนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ที่กำลังเผชิญกับเรื่องคอรัปชั่นอื้อฉาวได้สำเร็จ
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้มีรายงานระบุว่าเขาจะนั่งเก้าอี้นายกไม่เกิน 2 ปี หลังจากนั้นเตรียมส่งต่ออำนาจให้กับนายอันวาร์ อิบบราฮิม
ส่วนรัฐบาลนายนาจิบ ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์ต่างๆ นานา เพื่อหวังผลเลือกตั้ง รวมไปถึงการออกกฎหมายแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ก่อนที่จะประกาศยุบสภา เพื่อให้พรรคฝ่ายตนได้เปรียบและออกกฎหมายต่อต้านข่าวลวงที่ถูกวิจารณ์ว่ามุ่งใช้ปิดปากฝ่ายค้านและผู้วิจารณ์ ซึ่งมหาเธร์ถูกสอบสวนด้วยกฏหมายฉบับนี้เช่นกัน จากกรณีที่บอกว่าเครื่องบินเช่าเหมาลำของเขาไม่สามารถเดินทางออกจากเกาะลังกาวี เพื่อไปลงทะเบียนผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ทัน
ทั้งนี้ล่าสุดมีรายงานจากสำนักพระราชวังยังดีเปอร์ตวนอากงของมาเลเซียว่า ดร.มหาเธร์ ซึ่งมีกำหนดในการสาบานตนรับตำแหน่งในวันนี้ (10 พ.ค.) จะยังไม่ขอเข้าสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง แต่อาจจะสาบานตนรับตำแหน่งในวันพรุ่งนี้ หรือภายในอาทิตย์หน้าแทน ซึ่งหลังจากสาบานตนแล้ว ดร.มหาเธร์ จะถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุมากที่สุดในโลก