จีนล้างบางสตาร์ทอัพติวเตอร์ หลังสีจิ้นผิงชี้เด็กติดติวเกินไป
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าจีนกำลังเพิ่มการปราบปรามภาคการศึกษาออนไลน์โดยบังคับให้บริษัทสตาร์ทอัพด้านการศึกษายอดนิยมต้องชะลอแผนเปิดขายหุ้นครั้งแรกในปีนี้
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา edtech เป็นหนึ่งในการลงทุนที่ร้อนแรงที่สุดในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตหลังโควิดของจีนโดยดึงเงินทุนร่วมลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วจากบริษัทชั้นนำเช่น Alibaba Group Holding Ltd. , Tencent Holdings Ltd. และ SoftBank Group Corp. จนกระทั่งรัฐบาลก้าวเข้ามาเล่นด้วย
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแนะนำในเดือนมีนาคมว่าการสอนพิเศษหลังเลิกเรียนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก และก่อให้เกิดแรงกดดันต่อต่อเด็กๆ ท่าทีของสีจิ้นผิงถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความสนใของเขาที่ต้องการจะควบคุมธุรกิจิตวเตอร์ไม่ให้มากเกิพอดี
ท่าทีของสีจิ้นผิงนำสู่คำเตือนในสื่อของรัฐและบทลงโทษที่มุ่งเป้าไปที่การแสวงหาผลประโยชน์จากอาการเสพติดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของประเทศจีน ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการของประเทศจีนมีแผนที่จะสร้างแผนกเฉพาะเพื่อดูแลแพลตฟอร์มการศึกษาเอกชนทั้งหมดเป็นครั้งแรก จากการเปิดเผยข้อมูลของผู้ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กับสำนักข่าว Bloomberg
การรณรงค์ของรัฐบาลทำให้การเสนอขายหุ้นขนาดใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นหลายรายการหยุดชะงักไม่ว่าจะเป็น VIPKid และ Huohua Siwei ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Tencent ได้ยกเลิกการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐแม้ว่าจะประสานงานกับกับธนาคารต่างๆ เป็นเวลาหลายเดือนเพื่อเตรียมการในเรื่องนี้ก็ตาม
ส่วน Zuoyebang ที่ลงทุนโดย Alibaba มีแนวโน้มที่จะพลาดเป้าหมายในการเปิดตัวในเร็วๆ นี้ในปี และ Yuanfudao ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ได้รับการสนับสนุนจาก Tencent ซึ่งมีมูลค่ามากที่สุดอยู่ที่ 1,550 ล้านดอลลาร์จะไม่เริ่มเตรียมการเสนอขายหุ้น IPO ในเร็วๆ นี้โดยบอกว่ามีปัยหาภายใน ในเดือนนี้เจ้าหน้าจีนจึงได้กำหนดข้อจำกัดมากมายเพื่อควบคุมธุรกิจติวเตอร์ รวมถึงการจำกัดค่าเล่าเรียนหลังเลิกเรียนที่บริษัทสามารถเรียกเก็บได้ และปรับ Yuanfudao และ Zuoyebang สำหรับการอ้างสิทธิ์โฆษณาที่เป็นเท็จ
สื่อจีนยังรายงานว่ามีการสั่งห้ามหลักสูตรออนไลน์สำหรับเด็กอายุ 6 ปีหรือต่ำกว่า ไปจนถึงการจำกัดการบ้าน และการออกใบอนุญาตบังคับสำหรับครูทุกคน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่านโยบายใหม่อาจรวมถึงการสั่งห้ามเรียนช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งจากข้อมูลของ Bloomberg Intelligence การใช้เวลาสุดสัปดาห์คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของการติวส่วนตัว
ธุรกิจเรียนออนไลน์ของจีนยังกลายเป็นภาคที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกโดยมีเงินหมุนเวียนถึง 10,500 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วซึ่งมากกว่าที่มีเงินลงทุนและหมุนเวียนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาตามรายงานของ บริษัท วิจัย Preqin ตลาดการเรียนรู้ออนไลน์ของจีนคาดว่าจะสูงถึง 315,000 ล้านหยวน (49,500 ล้านดอลลาร์) ในปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าจากเมื่อห้าปีที่แล้วตามข้อมูลของ Statista ผู้ติดตามข้อมูลตลาดทั่วโลก
เรื่องนี้ อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลของสีจิ้นผิงถึงใช้วิธีการที่ไม่ปกติในการตัดตอรการเติบโตของธุรกิจการศึกษาในประเทศจีน ที่ผ่านมารัฐบาลจีนยังจ้องที่จะลดอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent และ Alibaba ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมการศึกษาด้วย โดยใช้วิธีการตรวจสอบว่า Tencent และ Alibaba ละเมิดกฎระเบียบหรือไม่และทำการปรับ
Photo by Anthony KWAN / POOL / AFP