posttoday

Spetsnaz หน่วยสงครามพิเศษสุดโหดของรัสเซีย

28 กุมภาพันธ์ 2565

กองกำลังพิเศษของรัสเซีย หรือสเปซนาซ (Spetsnaz) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด

• คลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นกองกำลังยูเครนเผชิญหน้ากับกองกำลังพิเศษของรัสเซียในเมืองคาร์กิว เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยราว 1.4 ล้านคน ขณะที่สื่อต่างประเทศกำลังพูดถึงความน่ากลัวของกองกำลังพิเศษของรัสเซีย

• กองกำลังพิเศษของรัสเซีย หรือสเปซนาซ (Spetsnaz) ซึ่งมีตั้งแต่กองกำลังทหาร กองเรือ พลร่ม หน่วยข่าวกรอง ไปจนถึงหน่วยลอบสังหาร และก่อวินาศกรรม เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะหัวหอกในการโจมตีของรัสเซียที่น่าสะพรึงกลัว

• หน่วยสเปซนาซทางการทหารปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็นการแทรกซึมเข้าไปสอดแนมหาข่าวกรองทางทหาร หรือ ทำการก่อวินาศกรรมภายนอกประเทศ ทั้งในยามสงบ และในยามสงครามซึ่งมียุทธวิธีในการรบที่เน้นในการรบนอกแบบ หรือ สงครามกองโจรเป็นหลัก

• นอกจากนี้ยังมีหน่วยสเปซนาซที่ที่รับผิดชอบด้านความมั่นคงภายใน หรือภัยก่อการร้าย, ภัยจากการจับเป็นตัวประกัน และภัยจากอาชญากรรมต่างๆ รวมทั้งการควบคุมฝูงชน และการปราบปรามจลาจล ตลอดจนหน่วยสเปซนาซที่มีหน้าที่เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ เช่น การรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของประธานาธิบดี และคณะรัฐมนตรี ตลอดจนผู้บริหารหน่วยงานของรัฐระดับสูง

• หากจะเล่าถึงความโหดของสเปซนาซ ภารกิจที่รู้จักกันดีคือในช่วงสงครามอัฟกานิสถานปี 1979-1987 รวมถึงการโค่นล้มและสังหารประธานาธิบดีฮาฟิซูลเลาะห์ อามิน ของอัฟกานิสถานและลูกชายของเขา ตลอดจนบอดี้การ์ดส่วนตัวอีกกว่า 300 คน ภายในเวลา 40 นาที

• ปฏิบัติการดังกล่าวมีชื่อว่าสตอร์ม-333 (Storm-333) ซึ่งสเปซนาซได้บุกโจมตีพระราชวังทาจเบก (Tajbeg) ในกรุงคาบูล ของอัฟกานิสถาน ที่มีป้อมปราการหนาแน่น ปฏิบัติการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่โซเวียตประมาณ 660 คน ซึ่งแต่งกายด้วยเครื่องแบบอัฟกัน เจ้าหน้าที่ KGB และ GRU จำนวน 50 คนจาก Alpha Group และ Zenith Group โดยกองกำลังโซเวียตเข้ายึดครองอาคารรัฐบาล กองทัพ และสื่อสำคัญๆ ในกรุงคาบูล รวมถึงเป้าหมายหลักของพวกเขา นั่นคือพระราชวังทาจเบก

• สเปซนาซยังมีส่วนร่วมในการแทรกแซงยูเครนในภารกิจผนวกไครเมียของรัสเซียในปี 2014 โดยกองสเปซนาซที่ 22 ถูกส่งเข้าไปปลอมตัวเป็นพลเรือน

• รายงานล่าสุดอ้างว่าสเปซนาซมีทหารอย่างน้อย 5,000 นาย ตามรายงานของศูนย์การศึกษาความมั่นคงแห่งยุโรป (European Center for Security Studies) กล่าวว่า "สเปซนาซไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือในการสู้รบ แต่ยังเป็นอาวุธของสงครามการเมือง ข่าวกรอง และการโฆษณาชวนเชื่อ"

• ความโหดของสเปซนาซถึงขนาดที่พูดกันว่า "ถ้าเราเป็นตัวประกัน ให้จับปืนสู้ผู้ก่อการร้าย ยังมีโอกาสรอดมากกว่ารอให้สเปซนาซมาช่วย" เพราะในปฏิบัติการช่วยตัวประกัน 850 คนในโรงละครมอสโก จากกลุ่มติดอาวุธเชเชนที่เรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังออกจากเชชเนีย และยุติสงครามเชชเนียครั้งที่สอง สเปซนาซคร่าชีวิตตัวประกันไปประมาณ 130 คน จนมีคนพูดกันว่าสเปซนาซไม่สนตัวประกัน สนแต่การถล่มศัตรูเท่านั้น

• ภารกิจล่าสุดของสเปซนาซคือการรุกรานยูเครน รวมถึงการเข้าสู่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศเพื่อตามล่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และครอบครัวของเขา

Photo by REUTERS/Baz Ratner