ทางเลือกใหม่! ใช้ AI รับมือมิจฉาชีพออนไลน์

คอลเซ็นเตอร์ จัดเป็นอีกหนึ่งประเภทมิจฉาชีพที่ก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่ามหาศาล ไม่เพียงความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ยังกลายเป็นอีกหนึ่งความหงุดหงิดรำคาญใจของผู้ใช้บริการภายในสังคม ที่ไม่ว่าพยายามปราบปรามไปเพียงไรก็ดูจะไม่หมดสิ้น

 

แต่จะเป็นอย่างไรถ้ามีแนวคิดในการนำ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยรับมือคอลเซ็นเตอร์

 

 

Scam Detection ตัวช่วยตรวจจับคอลเซ็นเตอร์จาก AI

 

ผลงานนี้เป็นของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จาก Google กับการพัฒนา Scam Detection ฟีเจอร์ป้องกันผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ตัวใหม่ ระบบตรวจจับรุ่นใหม่ที่จะทำการตรวจสอบสายเรียกเข้าที่โทรเข้ามาในเครื่อง หากเป็นเบอร์ที่มีความน่าสงสัยจะแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนรับสาย ลดโอกาสที่เราจะกดรับสายจากมิจฉาชีพ

 

สำหรับท่านที่คุ้นเคยเทคโนโลยีย่อมทราบดีว่า ระบบการแจ้งเคือนและคัดกรองเบอร์ที่โทรเข้ามาไม่ใช่ของใหม่ มีแอปพลิเคชันมากมายที่ถูกออกแบบมารับมือในด้านนี้ เช่น Whoscall, Hiya, Mr.number ฯลฯ ที่มีคุณสมบัติระบุตัวตนปลายสายที่โทรเข้าในกรณีน่าสงสัย และช่วยให้เราหลีกเลี่ยงคอลเซ็นเตอร์ได้เช่นกัน

 

แต่ Scam Detection มีศักยภาพไกลกว่านั้น ด้วยระบบการวิเคราะห์ด้วย AI อาศัยโมเดลภาษา Gemini Nano ในการประมวลผลข้อมูล สามารถตรวจจับวลีและรูปแบบการสนทนาจากภาษาของคู่สนทนา เช่น การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร การขอข้อมูลส่วนตัว หรือขอให้โอเงินอย่างรีบเร่ง เพื่อนำมาประเมิน วิเคราะห์ แล้วแจ้งเตือนผู้ใช้งาน

 

ผู้ใช้งานจะได้รับการแจ้งเตือนจะมีข้อความและเสียงเตือนส่งมาว่าอาจเป็นการหลอกลวง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตอบสนองในลำดับต่อไป โดยข้อมูลการสนทนาทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบจะถูกประมวลผลด้วยโมเดลขนาดเล็กภายในเครื่อง จึงไม่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตและแน่ใจได้ว่ายังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของบทสนทนาได้เช่นเดิม

 

โดยปัจจุบัน Scam Detection เปิดให้ทดสอบใช้งานสำหรับผู้ใช้ Pixel 6 ขึ้นไปในสหรัฐฯ และมีแผนจะขยายการใช้งานต่อไปในอนาคต

 

 

Daisy AI ผู้สูงอายุที่จะมาหลอกคอลเซ็นเตอร์

 

ผลงานนี้เป็นของ O2 ค่ายโทรศัพท์มือถือในสหราชอาณาจักร กับการนำ Chatbot เพื่อมาใช้รับมือคอลเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ เริ่มจากการนำ AI มาเลียนเสียงผู้สูงอายุที่เป็นเหยื่อยอดนิยมของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ แล้วทำการสนทนาตอบโต้กับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ให้นานที่สุด เพื่อลดปัญหาในการโทรไปรบกวนลูกค้าของบริษัท

 

Daisy เป็น AI ที่ถูกกำหนดบุคลิกให้เป็นผู้สูงอายุเพศหญิง ที่มีเสียงและรูปแบบการสนทนาใกล้เคียงกับคนจริงจนแยกแยะได้ยาก ตัวโมเดลได้รับการป้อนข้อมูลสายการสนทนาจริงที่เกิดระหว่างการต้มตุ๋นพร้อมข้อมูลจากมิจฉาชีพเพื่อการเรียนรู้ พร้อมกับใช้เสียงที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากผู้สูงอายุจริงมาใช้ในการโต้ตอบการสนทนา

 

เมื่อเริ่มต้นการสนทนา Daisy จะอาศัยโมเดล AI LLM ขนาดใหญ่หลายตัวมาประมวลผลเนื้อหา จากนั้นจะนำไปผ่านชั้นบุคลิกภาพที่ได้รับการปรับแต่งขึ้นมาเป็นผู้สูงอายุ แล้วจึงอาศัยเสียงพูดผ่านโมเดลแปลงข้อความเป็นเสียง โดยเป็นการดำเนินการแบบเรียลไทม์

 

จุดเด่นของ Daisy คือ การพูดคุยตอบโต้บทสนทนาลื่นไหล เธอจะชวนฝ่ายตรงข้ามพูดคุยเรื่องทั่วไป ดินฟ้าอากาศ ครอบครัว และงานอดิเรก ให้ดูเป็นผู้สูงอายุทั่วไป พร้อมการป้อนเลขบัญชีทรี่ไม่ถูกต้องเพื่อหลอกล่อให้คอลเซ็นเตอร์เสียเวลากับเธอให้นานที่สุด โดยสามารถดึงบทสนทนาให้ยาวนานถึง 40 นาที/ครั้ง

 

เป้าหมายสำคัญของ Daisy คือ การตอบโต้แนวทางพฤติกรรมของคอลเซ็นเตอร์ สายสนทนาของ Daisy ทั้งหมดจะได้รับการบันทึกตลอดการสนทนา เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการเรียนรู้กลโกงและแนวทางการทำงานของคอลเซ็นเตอร์ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนต่อไป

 

 

 

ทั้ง Scam Detection และ Daisy ล้วนเป็นนวัตกรรมจาก AI ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรับมือต่อกรกับคอลเซ็นเตอร์ทั้งสิ้น โดยจะช่วยลดผลกระทบจากการฉ้อโกงและหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่คุกคามเศรษฐกิจและสังคมในหลายประเทศ คงต้องรอดูต่อไปว่าจะสามารถใช้งานจริงได้เพียงไร

 

สำหรับคนทั่วไปอย่างเราก็คงได้แต่คาดหวังว่าจะมีทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในเร็ววัน

 

 

 

ที่มา

 

https://security.googleblog.com/2024/11/new-real-time-protections-on-Android.html

 

https://news.virginmediao2.co.uk/o2-unveils-daisy-the-ai-granny-wasting-scammers-time/