Agentic AI คืออะไร? ชวนทำความเข้าใจเทคโนโลยี AI รูปแบบใหม่
Agentic AI คืออะไร? ชวนทำความเข้าใจเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รูปแบบใหม่ที่แวดวงธุรกิจเริ่มหยิบมาใช้และเป็นที่พูดถึงมากขึ้น
ขณะที่ Generative AI เป็นที่พูดถึงในแวดวงเทคโนโลยีมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ล่าสุดมีคำศัพท์ใหม่ที่วงการธุรกิจเริ่มนำมาใช้นั่นก็คือ Agentic AI แล้วเทคโนโลยีทั้งสองตัวนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร?
Generative AI เป็นรากฐานสำคัญของ Agentic AI ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น โดย Agentic AI คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการตัดสินใจ ทำงาน และเรียนรู้ได้เองคล้ายกับมนุษย์ (agent-like behavior) ซึ่งสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างอัตโนมัติ เช่น แชทบอทที่สามารถสนทนาโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
บริษัทส่วนใหญ่ที่พัฒนา Agentic AI มักมีเป้าหมายที่จะสร้าง AI ให้เปรียบเสมือนเพื่อนคู่คิดดิจิทัลที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือการบริการลูกค้า
Agentic AI คืออะไร? จากมุมมองบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งได้ให้คำนิยามของ Agentic AI ไว้ดังนี้
- Nvidia อธิบายว่า Agentic AI เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการ "วิเคราะห์และวางแผนเชิงลึก" เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน โดยอาศัย "กลไกการเรียนรู้และการตัดสินใจ" ทำให้ Agentic AI สามารถ "ทำงานเองได้อย่างอิสระ
- IBM อธิบายว่า Agentic AI เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการ "กระทำ" เสมือนมีตัวตน สามารถตัดสินใจ ทำงาน แก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน และโต้ตอบกับสิ่งรอบตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในสถานการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในข้อมูลที่ใช้ฝึกอบรมมาก่อน
- Microsoft อธิบายว่า Agentic AI เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถทำงานซับซ้อนได้โดยอัตโนมัติ ครอบคลุมเทคโนโลยีที่หลากหลาย ตั้งแต่ระบบแชทบอทพื้นฐานไปจนถึงระบบผู้ช่วยอัจฉริยะขั้นสูงหรือหุ่นยนต์
Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce ได้ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า "เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นวิวัฒนาการของ AI มาแล้วสามยุค โดยเริ่มจากยุคของโมเดลเชิงคาดการณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ต่อมาคือยุคของ Generative AI ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ เช่น ChatGPT และปัจจุบันเรากำลังเข้าสู่ยุคของ Agentic AI ที่มีความสามารถในการปฏิบัติงานที่ซับซ้อนได้ด้วยตนเอง
ปัจจุบัน บริษัทชั้นนำระดับโลกต่างให้ความสำคัญและทุ่มเททรัพยากรในการพัฒนา Agentic AI โดย Salesforce ตั้งเป้าว่าจะพัฒนา Agentic AI ให้เกินพันล้านตัวเพื่อให้บริการกับผู้ใช้ภายในปีหน้า ขณะที่ Google และ OpenAI ก็ประกาศแผนพัฒนา Agentic AI เช่นกัน โดย OpenAI เตรียมเปิดตัว "Operator" ซึ่งมีความสามารถในการดำเนินการแทนผู้ใช้ที่หลากหลาย เช่น การเขียนโค้ดหรือจองตั๋วเครื่องบินผ่านคอมพิวเตอร์