posttoday

ปลอดภัยหรือเสี่ยงภัย? เมื่อสแกนใบหน้าถูกใช้รับมืออาชญากรรม

09 มกราคม 2568

เชื่อว่าทุกท่านคุ้นเคยกับเทคโนโลยี จดจำใบหน้า หรือ สแกนใบหน้า ไม่มากก็น้อย หลายประเทศเริ่มนำระบบนี้มารักษาความปลอดภัย แต่นำมาสู่การตั้งคำถามด้านความปลอดภัยเช่นกัน

ปัจจุบัน การสแกนใบหน้า หรือ จดจำใบหน้า เป็นเทคโนโลยีที่มีอยู่ทั่วไป ในไทยก็มีการใช้งานอย่างแพร่หลายสำหรับยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันทางการเงินไปจนภาครัฐ ทั้งยังมีการใช้สำหรับตรวจสอบผู้ใช้งานและปลดล็อกสมาร์ทโฟน การสแกนใบหน้าจึงเป็นระบบยืนยันตัวตนที่ได้รับความน่าเชื่อถืออย่างกว้างขวาง

 

แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อระบบสแกนใบหน้าถูกนำมาใช้ในการค้นหาและรับมืออาชญากร

 

ปลอดภัยหรือเสี่ยงภัย? เมื่อสแกนใบหน้าถูกใช้รับมืออาชญากรรม

 

การสแกนใบหน้าที่ใช้สำหรับยืนยันและจับตัวผู้ต้องหา

 

แนวคิดนี้ได้รับการนำไปใช้งานโดย ตำรวจนครบาล ในลอนดอน กับการทดลองนำการเทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาใช้ในการรับมืออาชญากร โดยการนำรถตู้ติดตั้งกล้องความคมชัดสูงไปจอดไว้ในตำแหน่งที่กำหนด จากนั้นจึงทำการสแกนใบหน้าของผู้คนแบบเรียลไทม์ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 500 ราย

 

ระบบจะเริ่มจากการใช้กล้องความละเอียดสูงเก็บข้อมูลใบหน้าของคนที่สัญจรไปมาบนท้องถนน มาเปรียบเทียบอัตลักษณ์ผ่านอัลกอริทึม AI จดจำใบหน้า แล้วจึงนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของรายชื่อที่ได้รับการเฝ้าระวัง และทำการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบข้อมูลที่ตรงกัน

 

ทางกรมตำรวจนครบาลลอนดอนกล่าวว่า พวกเขาบุกเบิกในการนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาใช้ตรวจสอบอาชญากร ช่วยให้ลอนดอนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากระบบสามารถคัดกรองและตรวจจับผู้กระทำความผิดที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ผลลัพธ์จากการทดสอบการใช้งานระบบสแกนใบหน้าดังกล่าว ช่วยให้ทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 540 ครั้ง ในจำนวนนี้กว่า 50 ครั้งเป็นอาชญากรที่มีความผิดร้ายแรง ทั้งความรุนแรงต่อเด็กและสตรี การทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว และล่วงละเมิดทางเพศ โดยหลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบหากไม่ตรงกับฐานข้อมูลใบหน้าจะถูกลบจากระบบทันที

 

ในทางหนึ่งนี่จึงเป็นเครื่องมือยับยั้งอาชญากรรมที่ช่วยปกป้องชุมชนและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปลอดภัยหรือเสี่ยงภัย? เมื่อสแกนใบหน้าถูกใช้รับมืออาชญากรรม

 

ข้อกังขาและอันตรายจากการจดจำใบหน้า

 

ในสายตาของหลายท่านการใช้งานระบบสแกนใบหน้าในการรับมืออาชญากรรมอาจไม่แปลกใหม่ สามารถพบเห็นได้ตามสื่อบันเทิง บางประเทศไม่เพียงใช้สำหรับยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลและความสะดวกของผู้ใช้งาน แต่มีการนำไปใช้รักษาความปลอดภัยสาธารณะอย่างกว้างขวาง หนึ่งในนั้นคือประเทศจีน

 

จีนมีการนำระบบจดจำใบหน้ามาใช้ในการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ทั้งการเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัย การบังคับใช้กฎหมาย ป้องกันอาชญากรรม ไปจนการใช้งานในชีวิตประจำวันครอบคลุมหลายภาคส่วนของประเทศ แม้จะมอบความสะดวกสบายแต่ก็ชวนให้ตั้งคำถามเช่นกัน

 

อันดับแรกคือ ข้อกังขาในด้านความแม่นยำ แม้อัลกอริทึมประมวลผลข้อมูลใบหน้าจะได้รับการพัฒนาโดยเฉพาะจนมีความแม่นยำสูง แต่อาจเกิดการผิดพลาดในกรณีแสงน้อยหรือภาพไม่ชัดเจนพอ ในกรณีเกิดข้อผิดพลาดอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและการถูกใส่ความ จนอาจส่งผลกระทบต่อผู้ระบุตัวตนผิด

 

ข้อกังวลต่อมาคือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลใบหน้าจัดเป็นข้อมูลส่วนตัวที่มีความสำคัญและละเอียดอ่อน ไม่ต่างจากการเก็บข้อมูลลายนิ้วมือ การเก็บข้อมูลใบหน้านำไปสแกนเปรียบเทียบฐานข้อมูลนี้ จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างกว้างขวาง โดยไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

 

การที่ภาครัฐนำระบบจดจำใบหน้ามาใช้งานเป็นวงกว้างยังนำไปสู่ประเด็นมากมาย การเก็บข้อมูลนี้ละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บางประเทศก็ยังไม่มีกฎหมายรองรับการเก็บข้อมูลในส่วนนี้ สร้างความไม่สบายใจและหวาดระแวงแก่คนในสังคม อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ยังถูกนำไปใช้ติดตามสอดแนมผู้ขัดแย้งกับรัฐบาลได้

 

ตบท้ายด้วยความปลอดภัยของข้อมูล การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข่าวที่เราพบเห็นได้ทั่วไป อีกทั้งข้อมูลใบหน้าเป็นสิ่งที่มีติดตัวตั้งแต่เกิดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงในเวลาอันสั้น หากถูกขโมยข้อมูลไปใช้งานอาจนำไปสู่อันตรายมากมาย ทั้งการหลอกลวงระบบสแกนใบหน้า หรืออาจนำไปใช้กับคนรอบข้างเพื่อนำไปสู่การหลอกลวงในลำดับต่อไป

 

ด้วยเหตุนี้แม้จะมีการใช้งานในหลายประเทศ แต่การใช้ระบบจดจำใบหน้าในการรักษาความปลอดภัยสาธารณะจึงยังถูกตั้งคำถามและคัดค้านอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

ในประเทศไทยการสแกนใบหน้าถือเป็นการเก็บข้อมูลที่ใช้ยืนยันตัวตนในหน่วยงานราชการหรือธนาคาพาณิชย์ อย่างไรก็ตามข้อมูลส่วนนี้จัดเป็นข้อมูลชีวภาพที่มีความอ่อนไหว ภาคธุรกิจจะไม่สามารถรวบรวมหรือนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ได้ หากไม่มีการยินยอมอย่างชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล

 

ล่าสุดประเทศจีนที่มีการใช้เทคโนโลยีนี้แพร่หลาย ก็มีการยกร่างกฎหมายเพื่อจำกัดการสแกนใบหน้าแล้วเช่นกัน

 

 

 

ที่มา

 

https://techxplore.com/news/2024-12-london-police-facial-recognition-tech.html

 

https://scbtechx.io/th/blogs/product/is-face-recognition-really-a-safe-technology/

 

https://mgronline.com/china/detail/9620000117043

 

https://www.thaipbs.or.th/now/content/235