posttoday

DeepSeek ขึ้นแท่นแอป AI เบอร์ 1 บน App Store แซงหน้า ChatGPT

27 มกราคม 2568

DeepSeek สตาร์ทอัพด้าน AI จากจีน สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในวงการเทคโนโลยี ด้วยการก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 บน App Store แซงหน้า ChatGPT สั่นคลอนความเชื่อมั่นโมเดล AI ที่ขึ้นชื่อว่าล้ำสุดแห่งยุค

DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI จากประเทศจีน สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในวงการเทคโนโลยี ด้วยการก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 บนชาร์ตแอปพลิเคชันฟรีบน Apple App Store เพียงไม่กี่วันหลังจากเปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) รุ่นเรือธง DeepSeek-R1

เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา DeepSeek ซึ่งนำโดย เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) อดีตผู้จัดการกองทุน Hedge Fund ได้เปิดตัวโมเดล AI  "DeepSeek-R1" ที่เรียกได้ว่าสร้างความแตกตื่นให้กับซิลิคอนวัลเลย์และวงการ AI ทั่วโลก ด้วยความสามารถที่เทียบเท่า หรืออาจเหนือกว่า โมเดล AI ชั้นนำจาก OpenAI, Google และ Meta

ช่วงที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ พยายามทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาโมเดล AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดหาชิปประมวลผลขั้นสูงเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล แต่ DeepSeek กลับสามารถสร้างโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่า หรืออาจเหนือกว่า ในราคาต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก

จากรายงานวิจัยที่เผยแพร่เมื่อปลายเดือนธันวาคม นักวิจัยของ DeepSeek ประมาณการว่า พวกเขาใช้เงินลงทุนไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้ชิป Nvidia H800 ประมาณ 2,000 ตัว ในการสร้างและฝึกฝนโมเดล V3

ในขณะที่บริษัทอย่าง Meta กำลังเร่งระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อชิป Nvidia H100 ซึ่งเป็น GPU รุ่นเรือธงของ Nvidia แต่เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จีนจึงไม่สามารถนำเข้า H100 ได้ ทำให้ต้องหันมาใช้ H800 ซึ่งมีอัตราการถ่ายโอนข้อมูลต่ำกว่า ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส

ความสำเร็จของ DeepSeek ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทสตาร์ทอัพจากจีน ที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้ทัดเทียมกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกได้ แม้จะมีทรัพยากรน้อยกว่าอย่างมาก ซึ่งอาจเป็นการบั่นทอนความพยายามของสหรัฐฯ ในการรักษาความเป็นผู้นำด้าน AI

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตามองต่อไปว่า DeepSeek จะสามารถรักษาความได้เปรียบนี้ไว้ได้นานแค่ไหน และจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในวงการ AI โลกอย่างไรในอนาคต