SUPER โดรนตาเหยี่ยว มองเห็นหมุดจากตึก 18 ชั้นแม้ในเวลากลางคืน
ที่ผ่านมาเราอาจเห็นโดรนบินชนนก กิ่งไม้ หรือสิ่งกีดขวางมาไม่น้อย ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปจากการมาถึงของ SUPER โดรนรุ่นใหม่ที่มองเห็นเข็มหมุดได้จากตึก 18 ชั้น
เมื่อพูดถึงโดรนหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การใช้งานไม่กว้างขวาง หนึ่งในนั้นต้องมีปัญหาด้านการมองเห็นและตรวจจับสิ่งกีดขวาง ตามปกติการระบุสภาพแวดล้อมมักอาศัยอุปกรณ์ประเภทกล้อง แต่กล้องอาจไม่ไวพอสำหรับตรวจจับวัตถุขนาดเล็ก หรือไม่สามารถใช้งานได้ดีนักในพื้นที่ที่มีแสงน้อย
นี่เป็นเหตุผลในการพัฒนาโดรนรุ่นใหม่ที่ตรวจสอบวัตถุได้แม่นยำในที่มืด
SUPER สุดยอดโดรนที่มองเห็นแม้อยู่บนตึกชั้น 18
ผลงานนี้เป็นของ University of Hong Kong กับการคิดค้นพัฒนาโดรน SUPER พร้อมระบบตรวจจับวัตถุรุ่นใหม่โดยการติดตั้งเซ็นเซอร์ LiDAR 3 มิติ ช่วยให้โดรนสามารถตรวจจับวัตถุและสิ่งกีดขวางภายในพื้นที่ได้แม้จะอยู่ระยะไกลหรืออยู่ในที่มืด
ตามปกติโดรนทั่วไปจะอาศัยการรับรู้สภาพแวดล้อมผ่านกล้อง แต่กล้องติดตั้งโดรนก็มีข้อจำกัดการใช้งานในหลายด้าน ทั้งการใช้งานในเวลากลางคืน แสงสะท้อน สภาพอากาศ หรือแม้แต่ไอน้ำในอากาศ ก็สามารถบดบังทัศนวิสัยจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ด้วยเหตุนี้ทางทีมวิจัยจึงได้พัฒนาเซ็นเซอร์ LiDAR 3 มิติ ช่วยให้การยิงแสงเลเซอร์วัดระยะทำได้ไกลและแม่นยำมากขึ้น เซ็นเซอร์สามารถตรวจจับวัตถุขนาดเล็กจิ๋วได้แม้อยู่ในระยะไกล ช่วยให้สามารถระบุและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางระหว่างทำการบินได้ดียิ่งขึ้น
เซ็นเซอร์รุ่นใหม่ช่วยเพิ่มขอบเขตการตรวจจับและมองเห็นวัตถุเป็นอย่างมาก สามารถค้นหาวัตถุขนาดเล็กราว 1 เซนติเมตร เทียบเท่ากับเข็มหลุดได้อย่างแม่นยำ แม้จะอยู่ในระยะห่างมากกว่า 70 เมตร หรือคิดเป็นระดับความสูงจากของตึก 18 ชั้น เมื่อทำการบินจึงอัตราความปลอดภัยในการใช้งานสูงกว่าโดรนทั่วไป 35 – 40 เท่า
สู่อนาคตที่ใกล้ความจริงอีกก้าวของโดรนอัตโนมัติ
สำหรับท่านที่ใช้งานโดรนอาจเกิดข้อสงสัยว่า โดรนที่ใช้งานปัจจุบันก็มีการติดตั้งเซ็นเซอร์ LiDAR กันทั่วไป แต่ข้อแตกต่างสำคัญคือ LiDAR ทั่วไปมีระยะทำการจำกัด และมีปัญหาในการตรวจจับวัตถุขนาดเล็กกว่า 5 เซนติเมตร นั่นทำให้การใช้งานจริงโดรนอาจบินไปชนกิ่งไม้ สายไฟ หรือราวตากผ้าจนเกิดความเสียหาย
ในขณะที่เซ็นเซอร์ของโดรน SUPER สามารถตรวจจับวัตถุขนาดจิ๋วได้แม้จะอยู่ในระยะไกล ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ในขั้นตอนการทดสอบโดรนสามารถบินหลบหลีกสายไฟขนาด 2.5 มิลลิเมตรที่บางเทียบเท่าสายกีตาร์ได้อย่างราบรื่น
เซ็นเซอร์นี้เองที่เป็นจุดขายสำคัญของโดรนเมื่อนำไปใช้งานร่วมโดรนอัตโนมัติ เมื่อปล่อยให้ AI ขับเคลื่อนโดรน SUPER แม้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วเทียบเท่าโดรนสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ แต่สามารถรักษาระดับความเร็วสูงไว้ได้อย่างต่อเนื่องแม้ต้องหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
SUPER สามารถบินหลบหลีกกิ่งไม้น้อยใหญ่ภายในป่าและมีความคล่องตัวที่สูงมาก จึงสามารถรักษาระดับความเร็วสูงสุดที่ 72 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะบินในเส้นทางโล่งหรือพื้นที่ป่าทึบก็แทบไม่ส่งผลกระทบต่อความเร็วการบิน แสดงให้เห็นว่าเซ็นเซอร์ช่วยให้ AI ประเมินเส้นทางการบินได้เป็นอย่างดี
นั่นทำให้โดรน SUPER พร้อมเซ็นเซอร์ LiDAR 3 มิติ เหมาะสมต่อการนำไปใช้ในงานหลากหลายรูปแบบ เช่น การสำรวจสภาพแวดล้อม, สร้างแผนที่ 3 มิติ, ตรวจสอบพื้นที่อันตราและสถานการณ์ฉุกเฉิน ไปจนตรวจสอบความเสียหายที่เกิดกับโครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ
ปัจจุบันโดรน SUPER ยังไม่มีการวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ แต่ด้วยประสิทธิภาพและขีดความสามารถของโดรน เชื่อว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการประเมินและเข้าถึงพื้นที่อันตรายในการกู้ภัย ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายได้อีกมากในอนาคต
ที่มา
https://newatlas.com/aircraft/super-mav-3d-lidar-drone/
https://www.youtube.com/watch?v=hhL3lmsyn34&ab_channel=NewAtlas