การพัฒนาบุคลากร
ปัจจุบันบุคลากรมีความหลากหลายทั้งด้านความสามารถ ศักยภาพและประสบการณ์
โดย ดร.อัจฉรา จุ้ยเจริญ
ปัจจุบันบุคลากรมีความหลากหลายทั้งด้านความสามารถ ศักยภาพและประสบการณ์ อีกทั้งสถานที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในการออกแบบวิธีการพัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงคล้ายคำพูดที่ว่า "There is no one-size-fits-all" จำเป็นต้องยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ในการเลือกวิธีการที่เหมาะสม
วิธีการแรก On-the-Job Training (OJT) เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนลงมือทำได้เลย มีข้อดีคือ เป็นการประหยัดเวลา เพราะสามารถสอนในที่ทำงานจริง และบุคลากรสามารถทดลองปฏิบัติและฝึกฝนทักษะนั้นได้ทันที ส่วนใหญ่จะใช้วิธีนี้กับพนักงานใหม่ หรือผู้ที่อยู่มานานแต่ย้ายเข้ามารับบทบาทใหม่ เป็นวิธีที่มักใช้กันในสายงานการผลิต ข้อเสียคือ หากผู้สอนไม่มีแผนการสอนที่ดี อาจทำให้ผู้เรียนไม่กล้าสอบถาม
OJT ที่ดีนั้น ผู้สอนจำเป็นต้องมีการวางแผนเป็นระบบ เช่น วัตถุประสงค์ของการเรียนคืออะไร จะประเมินผลหลังจากสอนว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ได้อย่างไร มีคู่มือที่เข้าใจง่ายประกอบและกลับมาอ้างอิงได้ ในแผนการสอนควรมีช่วงเวลาให้ผู้เรียนได้ซักถาม แสดงความคิดเห็น และสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้ หากผู้สอนไม่ได้อยู่ในตำแหน่งงานของผู้เรียน ควรจะให้ผู้เชี่ยวชาญในตำแหน่งนั้นๆ ให้ความเห็นว่าจะต้องเพิ่มเติมอะไร เพื่อให้ตรงกับการนำมาใช้งานจริงมากที่สุด
อีกวิธีการหนึ่งคือ การเรียนรู้ในห้องเรียน (Classroom) ข้อดีคือ ผู้เรียนสามารถช่วยเหลือกันได้ คนที่เร็วหรือมีประสบการณ์สามารถช่วยเพื่อนที่เรียนช้ากว่า วิธีการนี้ ผู้สอนต้องเริ่มจากการสร้างความรู้สึกปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น และการมีส่วนร่วม เพื่อดึงดูดความสนใจและสมาธิของทุกคนให้อยู่กับการเรียน และจำเป็นต้องมีกิจกรรมสลับการเรียน เพื่อกระตุ้นบรรยากาศเรียนรู้และเพื่อเชื่อมโยงเข้ามาสู่เรื่องที่เรียน กิจกรรมอาจส่งเสริมความร่วมมือ (Collaborative Activity) หรือ การแข่งขัน (Competitive Activity) ขึ้นอยู่กับสไตล์พฤติกรรมของผู้เรียน
ปัจจุบันองค์กรที่มีสาขาหรือบุคลากรประจำอยู่ในต่างประเทศ พวกเขาอาจไม่สะดวกในการเดินทางมาเรียนร่วมกัน จึงสามารถใช้ประโยชน์จากการเรียนแบบออนไลน์สองแบบ
แบบแรกคือ Synchronous online คือผู้เรียนล็อกอินเข้ามาพร้อมๆ กันจากหลายประเทศ วิธีการนี้เหมาะสมกับการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ หรือเมื่อมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการการทำงาน ผู้สอนเปิดโอกาส ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติและซักถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ เนื่องจาก ผู้สอนไม่สามารถสังเกตผู้เรียนได้โดยตรง จึงต้องมีเทคนิคในการดึงดูดความสนใจ เช่น ให้พิมพ์ความคิดเห็นในช่อง "Chat" หรือถามความเห็นเชิงสำรวจอยู่เสมอ
อีกแบบคือ Asynchronous online ผู้เรียนจะล็อกอินเข้ามาเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ มีอิสระในการเลือกเวลาที่เหมาะสมกับงานของตนเอง ผู้สอนจะบันทึกเนื้อหาและนำการฝึกปฏิบัติไว้ล่วงหน้า วิธีนี้เหมาะกับบุคลากรที่เดินทางบ่อย หรืออยู่ในโซนเวลาที่แตกต่างจากผู้อื่น นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีมากๆ ในการช่วยเตรียมพื้นฐานความรู้ความเข้าใจของ ผู้เรียนที่กำลังจะเข้ามาเรียนรู้ร่วมกันในแบบอื่นๆ ที่ได้กล่าวมา