posttoday

ขีดเส้นเดินรถสีน้ำเงิน

22 กรกฎาคม 2559

บิ๊กตู่ใช้มาตรา 44 เร่งรัดเจรจาบีอีเอ็มเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายให้แล้วเสร็จภายใน 135 วัน

บิ๊กตู่ใช้มาตรา 44 เร่งรัดเจรจาบีอีเอ็มเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายให้แล้วเสร็จภายใน 135 วัน

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2559 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 42/2559 เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยคำสั่งฉบับดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 เร่งรัดการเจรจาคัดเลือกเอกชนเข้ามาบริหารการเดินรถไฟฟ้าสวนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ รวมทั้งการเชื่อมต่อการเดินรถ 1 สถานี ระหว่างสถานีบางซื่อ (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง) และสถานีเตาปูน (รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-เตาปูน) ซึ่งจะทำให้คัดเลือกเอกชนและลงนามสัญญาเดินรถดำเนินการเสร็จได้ใน 135 วัน หรือ 4 เดือนครึ่ง

“คำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับนี้ให้ยกเลิกขั้นตอนการส่งเรื่องให้คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ให้ความเห็นชอบก่อนเจรจากับเอกชนรายเดิมคือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือบีอีเอ็ม เพื่อให้เกิดการเดินรถแบบต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน และทำให้การดำเนินการมีประสิทธิผลอย่างรวดเร็วและเกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุดด้วย” แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผย

แหล่งข่าวจาก รฟม. เปิดเผยว่า คำสั่งดังกล่าวกำหนดให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก หรือคณะกรรมการตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ 2556 ที่ทำหน้าที่คัดเลือกเอกชนมาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายดังกล่าวยุติการดำเนินการใดๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2556 และให้บอร์ด รฟม.กำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งปันผลประโยชน์จากค่าโดยสาร รวมถึงหลักเกณฑ์อื่นเพื่อประโยชน์ในการเชื่อมต่อหรือร่วมใช้กิจการรถไฟฟ้าฯ

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินการรัดกุม บอร์ด รฟม.จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสั่งคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการความร่วมมือการป้องกันการทุจริตด้วย ขณะที่การดำเนินการในขั้นตอนกำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งปันผลประโยชน์ฯ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 21 ก.ค. 2559 จากให้บอร์ดเสนอหลักเกณฑ์การเจรจาผลประโยชน์ให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พิจารณาเห็นชอบให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับจากได้รับข้อเสนอจากบอร์ด รฟม.

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เมื่อ รมว.คมนาคม อนุมัติหลักเกณฑ์แล้ว ให้คณะกรรมการคัดเลือก หรือคณะกรรมการตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 ชุดเดิม ประชุมร่วมกับคณะกรรมการกำกับดูแล ซึ่งแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งฉบับนี้ เพื่อพิจารณาการดำเนินงานส่วนงานลงทุนระบบเดินรถไฟฟ้าให้แล้วเสร็จใน 30 วัน จากนั้นให้คณะกรรมการทั้งสองคณะเจรจากับผู้รับสัมปทานรายเดิม หรือบีอีเอ็ม และแก้ไขสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน จากนั้นให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการเจรจากับเอกชนหรือผู้รับสัมปทานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างสัญญาดังกล่าว

ภาพประกอบข่าว