posttoday

ทดลองเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวสิ้นปีนี้

03 ตุลาคม 2559

เร่ง รฟม.ประเมินหนี้และทรัพย์สินรถไฟฟ้าสายสีเขียวตั้งเป้าโอนให้ กทม.ทดลองเดินรถได้ทันปลายปีนี้

เร่ง รฟม.ประเมินหนี้และทรัพย์สินรถไฟฟ้าสายสีเขียวตั้งเป้าโอนให้ กทม.ทดลองเดินรถได้ทันปลายปีนี้ 

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประเมินมูลค่าหนี้สินและทรัพย์สิน และพิจารณากำหนดขั้นตอนการโอนหนี้สินและทรัพย์สินระหว่างกันสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ว่าได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนและค่าใช้จ่ายของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนขยายเหนือช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการก่อน

ทั้งนี้ การคำนวณค่าใช้จ่ายถึง ณ วันที่ 30 ก.ย. 2559 นี้จะเป็นกรอบในการจัดทำรายละเอียดวงเงินค่าใช้จ่าย ก่อนจะนำกลับเข้ามาพิจารณาในที่ประชุมอีกครั้งภายในเดือน ต.ค.นี้ และนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ภายในเดือน พ.ย.ต่อไปเพื่อให้สามารถโอนภาระหนี้สินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับกรุงเทพมหานครได้ทันภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯ สามารถเปิดทดลองเดินรถอย่างน้อย 1 สถานี (แบริ่ง-สำโรง) ก่อนภายในเดือน ธ.ค. 2559

ทั้งนี้ หากแนวทางการพิจารณาต้นทุนค่าใช้จ่ายของช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการได้รับการเห็นชอบแล้ว ก็จะนำรูปแบบดังกล่าวไปใช้ในการพิจารณากับการประเมินมูลค่าหนี้สินและทรัพย์สินของส่วนต่อขยายตอนใต้ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ต่อไป เพราะโครงการดังกล่าวอยู่ในแผนปี 2560 ซึ่งเพิ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างไป

สำหรับประมาณการทางการเงินเบื้องต้น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีวงเงินรวมอยู่ที่ 6.08 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 2.1-2.2 หมื่นล้านบาท และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 3.9-4 หมื่นล้านบาท

นายพีระพล กล่าวต่อว่า ทางฝ่ายกรุงเทพฯ ก็ยินดีรับโอนภาระหนี้สินต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งการพิจารณาเปลี่ยนลูกหนี้เงินกู้จาก รฟม.เป็นกรุงเทพฯ นั้น สามารถกระทำได้แต่กรุงเทพฯ ชี้แจงว่า กรุงเทพฯ ยังไม่เคยกู้เงินแม้ตามกฎหมายแล้วจะกู้เงินได้ จึงต้องพิจารณาในรายละเอียดว่ากรุงเทพฯ จะสามารถรับเป็นลูกหนี้แทน รฟม.ได้หรือไม่

“กรุงเทพฯ อยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายลูกและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงิน โดยจะต้องทำแผนรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้วงเงินกู้ดังกล่าวว่านำไปใช้ดำเนินการอะไรบ้าง เพื่อชี้แจงต่อสภากรุงเทพฯ รับทราบและพิจารณาเช่นกัน” นายพีระพล กล่าว