ฟู้ดแลนด์จ่อเพิ่มทุน500ล้าน
ฟู้ดแลนด์ เล็งเพิ่มทุนกว่า 500 ล้านบาทดันธุรกิจเข้าตลาดฯใน2ปีหน้า ขยายสาขาธุรกิจ-พัฒนาแวร์เฮ้าส์
ฟู้ดแลนด์ เล็งเพิ่มทุนกว่า 500 ล้านบาทดันธุรกิจเข้าตลาดฯใน2ปีหน้า ขยายสาขาธุรกิจ-พัฒนาแวร์เฮ้าส์
นายสมศักดิ์ ตีระพัฒนกุล ประธาน บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ผู้ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต “ฟู้ดแลนด์” เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทอีก 500 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 2 ปีนับจากนี้ ซึ่งการเพิ่มทุนดังกล่าว จะนำมาลงทุนในส่วนการขยายของคลังสินค้า(แวร์เฮ้าส์)แห่งใหม่ย่านรามอินทรา บนพื้นที่ 11 ไร่ เนื่องจากคลังสินค้าแห่งเก่าที่ย่านลาดพร้าวไม่สามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตได้ โดยเบื้องต้นคาดใช้งบลงทุนคลังสินค้าแห่งดังกล่าวราว 900 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนขยายสาขาใหม่ซูเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์อย่างต่อเนื่อง โดยในปีหน้าจะเปิดสาขาใหม่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 1 สาขา ในรูปแบบของการทำศูนย์การค้าชุมชน(คอมมูนิตี มอลล์)ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ โดยใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทบนพื้นที่ 7 ไร่ ขณะเดียวกันยังมีแผนหาพันธมิตรเพื่อทำคอมมูนิตี มอลล์และเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตฟู้ดแลนด์ ในย่านประชาชื่นบนพื้นที่ 11 ไร่ คาดจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท
จากก่อนหน้านี้ บริษัทเคยมีแผนพัฒนาโรงแรมพร้อมกับโครงการที่หัวหิน แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวทีธุรกิจโรงแรมค่อนข้างมากเกินความต้องการ(โอเวอร์ซัพพลาย) ทำให้ต้องยกเลิกการลงทุนในส่วนของธุรกิจโรงแรมไปก่อนด้วยธุรกิจโรงแรมค่อนข้างทำยาก และเมื่อยกเลิกธุรกิจโรงแรมไปแล้งทำให้บริษัทต้องวางแปลนใหม่ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะด้ข้อสรุปเร็วๆนี้ จากปัจจุบันบริษัทมีธุกิจเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ในกรุงเทพฯ อยู่แล้วและบริหารงานค่อนข้างยาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีแผนจะลดขนาดของซูเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์ เหลือขนาด 300 ตร.ม.เหมือนกับคู่แข่งในตลาด เพราะการลดขนาดร้านจะทำให้มีสินค้าจำหน่ายไม่ครบเหมือนกับสาขาปกติ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถสู้คู่แข่งในตลาดคอนวีเนียนสโตร์อย่างร้านเซเว่นอีฟเว่น ซึ่งเป็นของกลุ่มทุนใหญ่อย่างเครือซีพี. ที่ปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการมากถึงกว่า 6,000 สาขา
สำหรับสิ้นปี คาดมีรายได้เติบโต 5% จากปีก่อน มีรายได้ราว4,500 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่มีความแน่นอน เพราะมีนี้มีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จึงทำให้นโยบายทุกอย่างเปลี่ยน ซึ่งจากนโยบายการปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็นวันละ 300 บาท บริษัทก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นบริษัทได้เพิ่มค่าครองชีพพนักงานทุกคน 1,000 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา