กรณ์แนะจับตายุโรปหวั่นกระทบส่งออก
"กรณ์" แนะจับตายุโรปหลังเลือกตั้งกรีซ หวั่นกระทบส่งออกทั้งทางตรงทางอ้อม เตือนเร่งปรับสมดุลลดพึ่งพาส่งออกเป็นหลัก
"กรณ์" แนะจับตายุโรปหลังเลือกตั้งกรีซ หวั่นกระทบส่งออกทั้งทางตรงทางอ้อม เตือนเร่งปรับสมดุลลดพึ่งพาส่งออกเป็นหลัก
นายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรมว.คลัง กล่าวว่า หลังจากการเลือกตั้งกรีซต้องรอดูสถานการณ์โดยรวมว่าจะมีผลอย่างไรต่อการรวมตัวของกลุ่มประเทศ ยุโรปและจะกระทบต่อเศรษฐกิจของยุโรปอย่างไรต่อไป ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกมาก ดังนั้นหากกำลังซื้อจากประเทศในกลุ่มยุโรปลดลง ก็จะส่งผลต่อการค้าขายทั้งทางตรงกับยุโรป และ ทางอ้อมกับประเทศที่เป็นคู่ค้าของยุโรปอีกทอดหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การคลังของประเทศขณะนี้ ยังไม่ทำให้เกิดผลถึงขั้นวิกฤตต่อไทยในทันที ทั้งนี้ เพราะประเทศไทยพึ่งพาการส่งออกกับประเทศยุโรปเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น แต่ก็ยังต้องระวังผลกระทบทางอ้อม ซึ่งเรื่องนี้ก็จะเป็นประเด็นรุมเร้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งได้รับผลกระทบหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวสูงขึ้น ต้นทุนราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ถ้ามีปัญหาเรื่องอุปสงค์ที่ลดลงจากวิกฤตยุโรปก็จะยิ่งเป็นปัญหา
นายกรณ์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นมาตรการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนจากรัฐบาล ซึ่งอยากให้รัฐบาลมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง มากกว่าปัญหาการเมืองน ทั้งนี้ แม้แต่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่พิมพ์แบงก์เองได้ยังประสบวิกฤตได้ ขนาดประเทศยุโรปที่รวมตัวกันสิบกว่าประเทศยังประสบวิกฤติด้วย ดังนั้นประเทศไทยเป็นประเทศเล็กๆ พึ่งพาการส่งออกต้องหามาตรการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา
นายกรณ์กล่าวอีกว่า กรณีที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ออกมาประเมินว่าจีดีพีปีนี้การส่งออกจะขยายตัว 15 % ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าจะขยายตัวเพียง 8 % นั้น แต่จะเห็นว่าที่ผ่านมา4 เดือนการส่งออกยังติดลบ ดังนั้นตัวเลข 15% อาจจะเป็นการตั้งความหวังมากกว่าเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่แท้จริง ซึ่งประเด็นขณะนี้ต้องปรับสมดุลการออกส่งให้มากขึ้น พัฒนาให้ระบบเศรษฐกิจมีภูมิคุ้มกัน
นอกจากนี้ จากการประเมินสถานการณ์แก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมายังไม่เห็นออกมาพูดถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากนัก ปล่อยให้รัฐมนตรี 1-2 คนออกมาพูดถึงการดูแลเศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีการกำหนดท่าทีทิศทางที่ชัดเจนจากผู้นำสูงสุดของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนายกิตติรัตน์ นั้น ที่มาเห็นความตั้งใจในหลายเรื่อง แต่การทำงานต้องทำงานร่วมกับกระทรวงต่างๆ ซึ่งต้องสอดคล้องกัน รวมทั้งต้องหารือกับภาคธุรกิจ เอกชน ไม่ใช่แค่การทุบโต๊ะสั่งเท่านั้น