แนวโน้มตลาดอาหารแปรรูปแช่แข็ง
รายงานผลการสำรวจสถานการณ์ตลาดอาหารแปรรูปแช่แข็งในอาเซียน ที่จัดทำโดย Euromonitor International พบว่า จากการขยายตัวของเศรษฐกิจและสังคมเมือง ทำให้ครัวเรือนเอเชียมีเวลาปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้านน้อยลง อาหารแปรรูปแช่แข็งเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับครัวเรือน รวมทั้งร้านอาหารหรือภัตตาคารขนาดใหญ่ก็นิยมซื้อวัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผัก เบเกอรี่ หรือขนมหวานสำเร็จรูปในลักษณะแช่แข็งมากขึ้น
รายงานผลการสำรวจสถานการณ์ตลาดอาหารแปรรูปแช่แข็งในอาเซียน ที่จัดทำโดย Euromonitor International พบว่า จากการขยายตัวของเศรษฐกิจและสังคมเมือง ทำให้ครัวเรือนเอเชียมีเวลาปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้านน้อยลง อาหารแปรรูปแช่แข็งเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับครัวเรือน รวมทั้งร้านอาหารหรือภัตตาคารขนาดใหญ่ก็นิยมซื้อวัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผัก เบเกอรี่ หรือขนมหวานสำเร็จรูปในลักษณะแช่แข็งมากขึ้น
เหตุผลก็เพราะเก็บรักษาไว้ได้นาน ไม่เน่าเสีย ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายของร้านด้านวัตถุดิบได้ดีกว่าซื้อของสดโดยเฉพาะใน 4 ประเทศหลักที่ตลาดมีแนวโน้มขยายตัวดี ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
เมื่อพิจารณามูลค่าตลาดอาหารแปรรูปแช่แข็งใน 4 ประเทศดังกล่าวนั้น พบว่า ในปี 2554 ฟิลิปปินส์ มีมูลค่าตลาดสูงสุด 19,379.37 ล้านบาท รองลงมาคือ อินโดนีเซีย 15,893.27 ล้านบาท มาเลเซีย 5,040.96 ล้านบาท และสิงคโปร์ 2,383.67 ล้านบาท โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทุกประเทศมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
อินโดนีเซีย มีอัตราขยายตัวเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสูงสุดในกลุ่ม คือ 15% ต่อปี ขณะที่ฟิลิปปินส์มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 5.44% มาเลเซีย 3.2% ส่วนสิงคโปร์ถึงผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อสูง แต่ประชากรที่มีเพียง 5.35 ล้านคน ทำให้มูลค่าตลาดค่อนข้างเล็ก มีอัตราเติบโตเฉลี่ยเพียง 4.4%
หากพิจารณาเชิงปริมาณจำหน่าย ฟิลิปปินส์ก็ยังเป็นประเทศที่มีการบริโภคอาหารแปรรูปแช่แข็งมากที่สุด โดยในปี 2554 มีปริมาณจำหน่ายรวม 166.6 พันตัน อินโดนีเซีย 60.95 พันตัน มาเลเซีย 41.18 พันตัน และสิงคโปร์ 9.93 พันตัน
การเติบโตของตลาดอาหารแปรรูปแช่แข็งในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น มีผลมาจากการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก ทำให้ช่องทางจัดจำหน่ายแบบควบคุมอุณหภูมิกระจายสู่ทุกหัวเมืองมากขึ้น อาหารแช่แข็งที่จำหน่ายมีความหลากหลายทั้งแบบดิบ ปรุงแต่งบางส่วน และสำเร็จรูป รวมทั้งขนาดบรรจุที่มีหลายไซส์
ในตลาดฟิลิปปินส์ เนื้อสัตว์แปรรูปแช่แข็งเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคมากที่สุด ได้แก่ ฮอตด็อก เบคอน แฮมเบอร์เกอร์ และไส้กรอกหมู เป็นต้น รองลงมาคือ อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็ง สินค้าหลักจะเป็นกลุ่มปลาหมัก ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นปลาหมึก และยังมีสินค้ากลุ่มเนื้อไก่แช่แข็ง แบ่งเป็น เนื้อไก่นักเก็ต ไส้กรอก ไก่บาร์บีคิว และไก่ชุบขนมปัง
จากกระแสความนิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ จึงคาดว่าอาหารทะเลจะเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มขยายตัวดีในอนาคต เพราะภาพลักษณ์เป็นโปรตีนที่มีคุณภาพกว่าเนื้อแดง อีกทั้งสินค้ากลุ่มมันฝรั่งแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป และพิซซ่า ก็มีแนวโน้มเติบโตสูงเช่นกัน
ขณะที่อินโดนีเซียได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีขนาดประชากรมากที่สุดในอาเซียนและตลาดอาหารแปรรูปแช่แข็งมีอัตราเติบโตที่สูงถึง 23% ในปี 2553 และ 24.6% ในปี 2554 โดยสินค้ากลุ่มไก่แช่แข็งเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะนักเก็ตไก่สำหรับกลุ่มวัยรุ่น บริษัทผู้ผลิตอาหารแช่แข็งมีการผลิตนักเก็ตไก่รูปแบบต่างๆ มากมาย ทั้งรสชาติ รูปร่าง และส่วนผสมต่างๆ เช่น ชีส ผัก และเพื่อเอาใจลูกค้าวัยเด็ก
ปัจจุบัน นักเก็ตไก่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ถึง 42% ของมูลค่าไก่แช่แข็ง รองลงมาคือ ไส้กรอกไก่ ไก่ชุบแป้ง และปีกไก่ปรุงรส สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ประมง ลูกชิ้นปลาได้รับความนิยมมากที่สุด มีส่วนแบ่งตลาด 43% รองลงมาคือ Fish Fingers ชุบขนมปัง
ในส่วนของตลาดมาเลเซีย ไก่แช่แข็งเป็นอาหารกลุ่มที่นิยมมากที่สุดเช่นเดียวกับอินโดนีเซีย คือมีส่วนแบ่งตลาด 42% รองลงมาคือเนื้อสัตว์แปรรูปและอาหารทะเลแช่แข็ง สินค้าอาหารทะเลแช่แข็งนั้นมีแนวโน้มเติบโตสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ และยังเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะขยายตัวมากที่สุดในช่วง 4 ปีต่อจากนี้ ในขณะที่กลุ่มเนื้อไก่ เนื้อสัตว์แช่แข็ง และมันฝรั่ง ตลาดมีแนวโน้มหดตัวลง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคมาเลเซียที่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น
หันมาดูการขยายตัวของตลาดอาหารแปรรูปแช่แข็งในสิงคโปร์บ้าง ก็จะพบว่าอยู่ในระดับต่ำ คือประมาณ 2% ทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่า ซึ่งเนื้อไก่แช่แข็งและอาหารทะเลแช่แข็งมีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกันคือ 36% และ 34% ตามลำดับ รองลงมาคือ เบเกอรี่และเนื้อสัตว์แปรรูป การขยายตัวของตลาดอาหารแปรรูปแช่แข็งในสิงคโปร์มีแรงผลักดันมาจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะเบเกอรี่และขนมหวาน และรสชาติที่แตกต่างเป็นหลัก
ไส้กรอกไก่เป็นที่นิยมมากที่สุดของมูลค่าตลาดไก่แช่แข็ง รองลงมาคือ นักเก็ต กลุ่มอาหารทะเลแช่แข็ง เนื้อปลาแบบฟิลเลตมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด รองลงมาคือ Fish Finger ชุบขนมปัง และลูกชิ้นปลา ส่วนกลุ่มเนื้อสัตว์แช่แข็ง เบอร์เกอร์มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 91% ของมูลค่าตลาดเนื้อสัตว์แช่แข็ง