สมรภูมิแอนตี้ไวรัส ยึดหัวหาดสมาร์ตโฟน

โดย...พรหมเมศร์ ศิริสุขวัฒนานนท์

โลกออนไลน์และเทคโนโลยีขยายตัวมากขึ้นเท่าไร สมรภูมิแอนตี้ไวรัสก็ขยายตัวตามไปด้วย ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เห็นภาพนั้นอย่างชัดเจน นั่นเพราะภัยโลกไซเบอร์เริ่มแพร่กระจายมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กได้รับความนิยมมากขึ้น ข้อมูลส่วนตัวของใครหลายๆ คน ถูกบันทึกลงไปในโลกออนไลน์โดยไม่รู้ตัว รวมถึงบริการด้านธุรกรรมการเงินก็พัฒนามาเป็นบริการบนอินเทอร์เน็ต เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ แม้สถาบันการเงินจะมีระบบป้องกันทีแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ถ้าผู้ใช้อย่างเราๆ ไม่มีการป้องกัน การโจมตีก็เกิดขึ้น ต้องไม่ลืมว่า การโจมตีในปัจจุบันไม่ใช่เพื่อสร้างความเสียหาย แต่เพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัวไปใช้ประโยชน์มากกว่า

ยิ่งทุกวันนี้ทุกคนเหมือนพกคอมพิวเตอร์ติดตัว ซึ่งก็คือ สมาร์ตโฟน ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ใช้มือถือในประเทศไทย แต่ยังไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ จึงกลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่ติดตัวผู้ใช้ตลอดเวลา ขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กที่ผ่านมา มีการใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นส่วนใหญ่ ปัญหาคือ ไม่มีการอัพเดตข้อมูล ป้องกันได้ไม่ครบถ้วน และอาจมีผลทำให้การทำงานของเครื่องช้าลง

กิตติพงค์ ทุมนัส ผู้จัดการประจำประเทศไทยและอินโดจีน บริษัท แมคอาฟี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความเสียหายในลักษณะองค์กรน่าเป็นห่วงมากกว่า เพราะเป็นมูลค่าสูงมาก แมคอาฟีจึงให้ความสำคัญกับลูกค้าองค์กรก่อน แต่แมคอาฟีก็มองลูกค้าทั่วไปเป็นลักษณะเดียวกัน เพราะตอนนี้องค์กรต่างๆ ให้พนักงานนำอุปกรณ์พกพาส่วนตัวมาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายภายใน เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก ซึ่งการโจมตีที่เกิดขึ้นมีการเติบโตมหาศาลมาก มีเป้าหมายหลัก คือ ต้องการขโมยข้อมูลหรือมาเก็บข้อมูล

“องค์กรลดค่าใช้จ่าย โดยให้พนักงานเอาอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ได้ พนักงานก็ชอบ เพราะไม่ต้องพกอุปกรณ์หลายชิ้น แต่การลดค่าใช้จ่ายและนำมาซึ่งความเสียหายคงไม่คุ้มค่า ดังนั้นการลงทุนในด้านความปลอดภัยระบบไอที จะช่วยได้ทั้งความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างแท้จริง” กิตติพงค์ กล่าว

ส่วนการทำตลาดลูกค้าทั่วไป แมคอาฟีเน้นเสนอโซลูชันผ่านองค์กร นั่นคือ การมองเห็นลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไปเป็นส่วนเดียวกัน เมื่อองค์กรใดที่ใช้แมคอาฟีอยู่แล้ว สามารถรับสิทธิพิเศษให้พนักงานซื้อลดราคา 50% ซึ่งคาดว่าจะเห็นการทำตลาดชัดเจนต้นปีหน้า เพราะเมื่อเห็นแล้วว่า พนักงานมีความคุ้นเคยกับแมคอาฟีอยู่แล้ว การต่อยอดไปการใช้งานตามบ้านก็ไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากขึ้น เช่น สมาร์ตทีวี ที่เชื่อมต่อเข้าอินเทอร์เน็ตได้ หรือพรินเตอร์ที่เชื่อมต่อโครงข่ายเพื่อใช้พิมพ์ภายใน หรือสิ่งที่มักจะเกินคาดหมาย เช่น แฟลชไดรฟ์ ที่เป็นสื่อนำไวรัสชั้นดี รวมถึงการซื้อฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์มาเก็บข้อมูลมีมากขึ้น ก็เป็นอีกข้อพิสูจน์ว่า การจัดเก็บข้อมูลมากขึ้น แต่การป้องกันยังไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ เมื่อมองว่าพื้นฐานเทคโนโลยีเปลี่ยนไป การป้องกันข้อมูลต้องมากขึ้น ทั้งจากการใช้ระบบคลาวด์คอมพิวติง การใช้อุปกรณ์โมบาย ซึ่งทุกอย่างต้องมีการป้องกันแบบเรียลไทม์ และต้องมีการอัพเดตการโจมตีใหม่ๆ ตลอดเวลา ซึ่งแมคอาฟีทำงานผ่าน Global Threat Intelligent Cloud Service มีการอัพเดตภัยโจมตีใหม่ๆ เป็นระยะ และไม่ทำให้อุปกรณ์ไอทีต่างๆ ทำงานช้าลง

ไมตรี เนตรมหากุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ตัวแทนจำหน่ายแอนตี้ไวรัส นอร์ตัน บาย ไซแมนเทค กล่าวว่า นอร์ตันมีการพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับผู้ใช้ทั่วไป โดยไม่กินรีซอร์สของเครื่องและไม่มีผลทำให้การทำงานช้าลง โดยนอร์ตันมีเป้าหมายรุกตลาดผู้ใช้ทั่วไปอย่างชัดเจน และแบ่งตัวโปรแกรมออกมาให้เหมาะกับการใช้งาน มีหลักคือ นอร์ตันแอนตี้ไวรัส เน้นการป้องกันไวรัส ราคา 590 บาท สำหรับ 1 ไลเซนส์ นอร์ตัน อินเทอร์เน็ต ซีเคียวริตี้ เน้นการป้องกันจากการใช้อินเทอร์เน็ต ราคา 1,780 บาท สำหรับ 3 ไลเซนส์ และโปรแกรมใหม่ นอร์ตัน 360 ป้องกันแบบเบ็ดเสร็จ ที่สำคัญคือ ตัวเดียวติดตั้งได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน ราคา 2,090 บาท สำหรับ 3 ไลเซนส์ และหากผู้ใช้ต่ออายุจากของเดิมที่มีอยู่ ราคาลดลง 50% และกำลังทำโปรโมชันสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่จะลดราคา 50% ด้วย

“การใช้งานซอฟต์แวร์ไลเซนส์ในไทยมีประมาณ 5% เท่านั้น แต่กระแสการใช้งานกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แอนตี้ไวรัสเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่เดิมมีการละเมิดมาก แต่ตอนนี้คนเริ่มเข้าใจแล้วว่า ระบบป้องกันภัยที่ถูกต้องถูกกฎหมายมีประสิทธิภาพ และยิ่งนอร์ตันทำราคาลงมาต่ำ มีผลให้ผู้ใช้ทั่วไปยอมรับมากขึ้นด้วย” ไมตรี กล่าว

นอกจากนี้ นอร์ตันได้พัฒนาแอพพลิเคชันสำหรับใช้งานบนสมาร์ตโฟน นอร์ตัน โมบาย ซีเคียวริตี้ ไลท์ ดาวน์โหลดใช้ฟรี สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้จะไม่ใช่การทำงานเต็มรูปแบบ แต่เพื่อสร้างความปลอดภัยเบื้องต้นให้กับอุปกรณ์

วิลเลี่ยม ตัน ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) กล่าวว่า เทรนด์ไมโคร ได้เปิดตัว ไททาเนียม แม็กซิมั่ม ซิเคียวริตี้ 2013 ระบบรักษาความปลอดภัยแบบออลอินวัน ราคา 1,890 บาท สำหรับ 3 ไลเซนส์ ช่วยปกป้องผู้ใช้ในขณะใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ กูเกิล มายสเปซ และพินเทอเรส และยังสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลายด้วย

ต้องบอกว่า ซอฟต์แวร์ความปลอดภัยทุกแบรนด์ที่ติดตั้งบนอุปกรณ์พกพา นอกจากช่วยป้องกันการโจมตีไซเบอร์ได้แล้ว ยังช่วยความปลอดภัยด้านอื่นๆ เช่น หากเครื่องสูญหาย ถูกโจรกรรม ก็สามารถช่วยได้ เช่น แจ้งตำแหน่งใกล้เคียงที่มีการใช้งานและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สั่งปิดเครื่องระงับการใช้งาน เพียงแต่ต้องเลือกใช้ซอฟต์แวร์นี้ให้เหมาะสมและเข้ากับการใช้งาน ไม่มากไปไม่น้อยไปจะได้ไม่ส่งผลต่อการทำงานของเครื่องเกินความจำเป็น