ปล่อยอาหารหมู-ไก่ขึ้นราคา

พาณิชย์ยอมเอกชนแต่ปรับไม่ถึง10%ชุดนักเรียนขอเพิ่มราคา5บาท

“พาณิชย์” ส่งสัญญาณ ขึ้นอาหารหมูไก่ไข่ ตามเอกชนร้องขอ ส่วนชุดนักเรียนขอขึ้น 5 บาท

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ กำลังพิจารณาโครงสร้างต้นทุนอาหารสัตว์ในส่วนของอาหารหมูและอาหารไก่ไข่ ตามที่สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ยื่นหนังสือขอปรับราคาเข้ามาประมาณ 5-10% แต่จะอนุมัติปรับขึ้นไม่เท่ากับที่ผู้ประกอบการร้องขอมา

“แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ผลิตอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง จะยังมีต้นทุนราคาสูง แต่ผู้ผลิตน่าจะได้รับผลดีจากค่าเงินบาทแข็งค่า ช่วยชดเชยต้นทุนการนำเข้าได้ นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เข้าไปช่วยเหลือจากมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าไทยมาช่วยผู้ผลิตด้วยอีกทาง” น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ทั้งเนื้อหมูและไก่ไข่ ทำให้เกษตรมีกำไร หลังจากที่ขาดทุนก่อนหน้านี้ ในขณะที่ผู้ผลิตอาหารสัตว์ต้องแบกรับภาระต้นทุน หลังจากที่กรมฯ ขอความร่วมมือตรึงราคาอาหารหมูและไก่ไข่ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จึงควรได้รับการพิจารณาขยับราคาขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนจะปรับขึ้นเท่าไรนั้น ต้องพิจารณาโครงสร้างต้นทุนอีกครั้ง และเสนอนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ พิจารณาอนุมัติก่อน

สำหรับกรณีที่ผู้ผลิตชุดนักเรียน 1 ราย ได้ทำหนังสือขอปรับขึ้นราคาขายชิ้นละ 5 บาท หรือประมาณ 3% เพราะได้รับผลกระทบจากค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มเป็นวันละ 300 บาทนั้น ขณะนี้กำลังหารือถึงต้นทุนการผลิตกับผู้ผลิตรายดังกล่าวอยู่ แต่สถานการณ์โดยรวมไม่น่าเป็นห่วง เพราะจากการสำรวจตลาดชุดนักเรียนทั่วไป พบว่าส่วนใหญ่ยังคงราคาและคุณภาพเดิมไว้ เพราะเป็นสินค้าที่มีการแข่งขันสูง และที่ขอปรับขึ้นราคาเป็นกลุ่มที่เน้นตลาดระดับบน ไม่ใช่ส่วนใหญ่ของผู้บริโภค

ทั้งนี้ กรมฯ ไม่ได้มีมาตรการทางกฎหมายที่จะใช้ควบคุมดูแลสินค้าชุดนักเรียน เพราะไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม แต่จะใช้มาตรการบริหารมากกว่า โดยหากจะขอขึ้นราคาผู้ผลิตจะต้องทำหนังสือแจ้งให้กรมฯ ทราบก่อนขึ้นราคา 15 วัน ซึ่งระหว่างนั้นกรมฯ สามารถให้ผู้ผลิตมาชี้แจงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ หากไม่มีเหตุผลสมควรก็คงไม่ให้ขึ้นราคา แต่เชื่อว่าการขึ้นราคาขายน่าจะทำให้ขายสินค้าได้ยากขึ้น เพราะตลาดมีการแข่งขันสูง เช่น ห้างค้าปลีก หรือห้างสรรพสินค้า มีการลดราคาชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนในช่วงก่อนเปิดเทอมอยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง จัดกิจกรรม “ธงฟ้าลดค่าครองชีพ” Back to School สำหรับสินค้าเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม และทำให้ผู้ปกครองมีทางเลือกซื้อสินค้าได้มากขึ้น โดยวันที่ 25 เม.ย.นี้ ห้างบิ๊กซีจะลดราคาถูกกว่าท้องตลาด 15% เป็นต้น

สำหรับมูลค่าการค้าสินค้าชุดนักเรียนเฉลี่ยปีละ 6,000-7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดบน ได้แก่ แบรนด์ ตราสมอ สมใจนึก น้อมจิตต์ และศึกษาภัณฑ์ ส่วนตลาดกลางและล่าง ส่วนใหญ่มีแหล่งจำหน่ายย่านโบ๊เบ๊