posttoday

SCB ยกระดับศักยภาพด้าน Data และ AI องค์กร ดันรายได้ดิจิทัลเพิ่มเป็น 25% ในปี 68

26 กันยายน 2567

SCB เร่งยกระดับศักยภาพด้าน Data และ AI ขององค์กร ด้วยแพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks หนุนสัดส่วนรายได้ดิจิทัลสิ้นปีนี้แตะ 14% และเพิ่มเป็น 25% ในปี 68 ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากสิ้นปี 66 อยู่ที่กว่า 7%

ดร.ชาลี อัศวธีระธรรม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ ผนึกกำลัง Databricks บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน Data และ AI มุ่งยกระดับขีดความสามารถด้าน Data และเทคโนโลยี AI ของทั้งองค์กร ด้วยแพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks

ปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์มีจำนวนลูกค้า 17 ล้านราย ยอดธุรกรรมกว่า 1.5 พันล้านรายการต่อเดือน ธนาคารจึงต้องสามารถรองรับปริมาณการประมวลผลข้อมูลที่แตะระดับเพตาไบต์ (petabytes) เพื่อที่จะใช้ในการตัดสินใจต่างๆ บนพื้นฐานของข้อมูล โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง 

ดังนั้น ธนาคารจึงเลือกที่จะรวมศูนย์ (Centralize) และควบคุม Data และ AI Asset ทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม Databricks Data Intelligence บน Microsoft Azure เพื่อช่วย Personalize และจัดการบริการธนาคาร AI (AI banking services) สำหรับลูกค้าหลายล้านคน 

พร้อมกับการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับดิจิทัลแบงก์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของเทคโนโลยี AI โดยแพลตฟอร์ม Data Intelligence จะเป็นรากฐานของแพลตฟอร์มข้อมูลองค์กรแบบครบวงจรของธนาคาร ซึ่งจะสนับสนุนกลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) ขององค์กร รวมถึงการพัฒนาระบบไอทีหลักของธนาคาร (Core Banking) และบริการธนาคาร AI (AI banking services) อีกด้วย 

แพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Open Lakehouse ที่วางรากฐานแบบครบวงจรสำหรับข้อมูลและการกำกับดูแลทั้งหมด และเมื่อทำงานร่วมกับโมเดล AI จึงนำมาสู่ความเป็นลักษณะเฉพาะอันโดดเด่นขององค์กร 

SCB ยกระดับศักยภาพด้าน Data และ AI องค์กร ดันรายได้ดิจิทัลเพิ่มเป็น 25% ในปี 68

ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์ได้นำ AI เข้ามาในองค์กรในหลายๆ ด้าน ประกอบด้วย 1.AI in Underwriting การนำ AI มาใช้อนุมัติสินเชื่อ ซึ่งช่วยลดเวลาในการเข้าถึงสินเชื่อ และเพิ่มคุณภาพสินเชื่อ 2.AI in Collection การนำ AI มาใช้ติดตามหนี้ ช่วยให้เก็บหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.AI in Fraud Detection การนำ AI มาใช้ปกป้องผลประโยชน์ของธนาคาร และความปลอดภัยของลูกค่า ช่วยให้สามารถลดบัญชีม้า และบัญชีโรบอตได้ระดับหนึ่ง 

4. AI in Cross-Selling การนำ AI มาใช้วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อแนะนำบริการให้ตรงความต้องการของลูกค้า 5. AI in Consumer Wealth ใช้ AI มา Chat Bot และ 6. AI in Services ยกระดับงานบริการ เพื่อช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปสาขา หรือไม่ต้องโทรไป Call Center

จากการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้คาดว่าในสิ้นปี 2567 สัดส่วนรายได้ดิจิทัลของธนาคารไทยพาณิชย์ จะเพิ่มขึ้นเป็น 14% จากสิ้นปี 2566 อยู่ที่กว่า 7% และในปี 2568 จะเพิ่มเป็น 25% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ด้าน เซซิลี อึ้ง รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Databricks (ASEAN และ Greater China) กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์เลือกแพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks สำหรับการสร้างกลยุทธ์ในการทรานส์ฟอร์มและปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ระบบดิจิทัลของธนาคาร โดยความร่วมมือครั้งนี้จะร่วมกันสร้างคุณค่าเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการธนาคารแก่ลูกค้าของ ธนาคารให้มากยิ่งขึ้นผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ 

ภายใต้กลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) ของธนาคาร ทาง Databricks จะเปิดตัว Data and AI Academy ร่วมกับ IT Academy ของธนาคาร เพื่อฝึกอบรมพนักงานกว่า 1,800 คน ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับวิทยาการข้อมูล การวิเคราะห์ และ AI เพื่อเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยี Data และ AI ให้แก่พนักงาน จะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นต่อไป 

โดยโครงการฝึกอบรมจะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้ และเมื่อพนักงานที่เข้ารับการอบรมจนจบโครงการจะได้รับมอบใบรับรองและประกาศนียบัตรอย่างเป็นทางการจาก Databricks โดยโครงการนี้จะช่วยเพิ่มพูนทักษะความสามารถด้าน Data และ AI ทั่วทั้งองค์กร ควบคู่ไปกับการยกระดับศักยภาพของพนักงาน