สร้างฟาร์มออร์แกนิกสู่รายได้ 100 ล้านบาท

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

จากการเดินทางไกลของหนุ่มญี่ปุ่นที่มีโอกาสเข้ามาทำงานในไทย กลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต จากที่เคยทำงานตำแหน่งประธานบริษัท ดูแลสาขาในไทย กลายเป็นมาเกษตรกรปลูกผักและผลิตสินค้าออร์แกนิก สร้างรายได้สูงถึงปีละ 100 ล้านบาท

“โชโอกะ” เจ้าของธุรกิจ ออร์แกนิกฟาร์ม ชื่อ “ฟาร์มฮาร์โมนีไลฟ์” และเจ้าของ บริษัท ฮาร์โมนีไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล สนใจทำธุรกิจการเกษตรแบบออร์แกนิก เพราะชื่นชอบด้านการเกษตรและการดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เข้ามารับทำงานในไทย ในตำแหน่งประธานบริษัทผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา และสนใจเรื่องเกษตรจริงจัง

หลังจากเข้ามาทำงานในไทยประมาณ 5 ปี ก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทดังกล่าว มาทำธุรกิจเกษตรออร์แกนิกอย่างจริงจัง ทั้งที่ไม่มีความรู้ด้านการเกษตรเลย โดยตัดสินใจเลือกที่ดินบริเวณเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พื้นที่ 50 ไร่ และเริ่มทำฟาร์มปี 2542

ผักที่ปลูกช่วงแรกคือ “ผักโมโรเฮยะ” มีถิ่นกำเนิดในประเทศอียิปต์ เป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกบนพื้นที่เดียวกัน ผลิตสินค้าสูตรธรรมชาติ ทั้งน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า และสบู่ รวมทั้งผลิตผงผักโมโรเฮยะ และชาสมุนไพร ต่อจากนั้นได้ขยายการปลูกผัก สมุนไพร และผลไม้เพิ่มขึ้น

ด้านการขายผักสดนั้น “โช” ใช้วิธีการเข้าไปพบกับห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อนำผักออร์แกนิกไปจำหน่าย รวมทั้งใช้วิธีบริการส่งผักถึงบ้านลูกค้า ที่เก็บสดจากฟาร์ม ทำให้ลูกค้าชื่นชอบ จึงเกิดกระแสลูกค้ารู้จักแบบปากต่อปาก ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 1,000 ราย ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น โดยที่สินค้าไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง

อีกทั้งได้เปิดร้านขายผักออร์แกนิกชื่อร้าน “ซัสเทน่า ออร์แกนิค ช็อปแอนด์เรสโตรองค์” บริเวณซอยสุขุมวิท 39 วางขายสินค้าจากฟาร์ม และร้านอาหารที่นำผลผลิตจากฟาร์มมาปรุง รวมทั้งได้ขายบะหมี่ผักโมโรเฮยะให้ร้านเอ็มเคสุกี้ กลายเป็นบะหมี่สุดฮิต

“โช” กล่าวต่อว่า การทำธุรกิจเกษตร เริ่มจากการปลูกผัก จนกลายเป็นธุรกิจที่มั่นคงได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มาจากความมุ่งมั่น พยายามสุดความสามารถ เพราะการทำฟาร์มออร์แกนิกยากมาก ในช่วงแรกของการลงทุนมาจากเงินส่วนตัวและมาจากการกู้เงินธนาคาร ซึ่งบางครั้งเกิดความรู้สึกท้อ ลงทุนสูงมากช่วง 6-7 ปีแรก รวมกว่า 50 ล้านบาท เกิดปัญหาขาดทุน ต้องขายบ้าน ขายรถ เพื่อนำเงินมาลงทุน สู้เต็มที่ กว่าจะมาถึงวันนี้ใช้เวลา 15 ปี

ในทุกขั้นตอนทำฟาร์มออร์แกนิกต้องดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย ปัจจุบัน มีสินค้าหลายชนิด ส่งออกสินค้าไป 10 ประเทศทั้งสหรัฐ และญี่ปุ่น ทำให้บริษัทมีรายได้ต่อปี 100 ล้านบาท พร้อมถ่ายทอดผ่านหนังสือชื่อ “Organic Farm สิ่งมหัศจรรย์ เกิดขึ้นที่ไร่”

ถือเป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจ สามารถสร้างธุรกิจจากคำว่า ไม่รู้ กลายเป็น ผู้รู้ ด้านฟาร์มออร์แกนิก และเป็นแรงบันดาลใจให้เอสเอ็มอี เชื่อมั่นว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ทุกคนล้มได้แต่มีโอกาสกลับมาชนะ