posttoday

3เครดิตเรตติ้งขอพบคลัง

21 กันยายน 2557

สถาบันบริษัทจัดอันดับชั้นนำของโลกขอพบตัวแทนไทยทบทวนอันดับเครดิต

สถาบันบริษัทจัดอันดับชั้นนำของโลกขอพบตัวแทนไทยทบทวนอันดับเครดิต

นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า บริษัทจัดอันดับเครดิตทั้งมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส บริษัท เอสแอนด์พี และฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ขอพบ ตัวแทนจากประเทศไทยที่จะเดินทางไปร่วมประชุมกับธนาคารโลก ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ เพื่อสอบถามข้อมูลประเทศไทยภายหลังมีรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสถาบันจัดอันดับเหล่านี้พอใจกับนโยบายการเงินการคลังของประเทศไทย จากก่อนหน้านั้นมีความเสี่ยงในเรื่องการเมืองที่ ขัดแย้งกัน รวมถึงการที่ไทยมีรายได้ต่อหัวของประชากรในระดับที่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังเป็นระดับที่ต่ำมากเป็นปัจจัยกดดันในการปรับเพิ่มเครดิตของประเทศ และเป็นเรื่องที่ประเทศไทยต้องพัฒนา

"สถาบันเหล่านี้ชื่นชมประเทศไทยที่มีหน่วยงานอย่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ และไม่ห่วงเรื่องวินัยทางการคลังเพราะยังมีเสถียรภาพ ซึ่งภาระหนี้ต่องบประมาณและต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ยังอยู่ในระดับต่ำกว่ากฎหมายที่กำหนดโดยปัจจุบันอยู่ที่ 46% ของจีดีพีและที่ผ่านมา สบน.จะสรุปและทำรายงานเพื่อรายงานสถานะต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพื่อให้ทราบสถานะและภาระหนี้ของประเทศ"นายสุวิชญกล่าว

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในการพบกันครั้งนี้คะแนนที่จะดีขึ้นของประเทศไทยน่าจะเป็นในเรื่องคอร์รัปชั่น หลังรัฐบาลชุดใหม่ประกาศให้ความสำคัญและทำอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากเพราะก่อนหน้าในการเกิดรัฐประหารต่างประเทศถามเข้ามามาก เพราะนักลงทุนที่ลงทุนในพันธบัตรบางกองทุนต้องขาย เพราะมีกฎห้ามลงตราสารประเทศที่มีการใช้กฎอัยการศึก ซึ่งได้ชี้แจงว่าเป็นการเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น

นอกจากนี้ ในปีงบประมาณปี 2558 ที่รัฐขาดดุล 2.5 แสนล้านบาท ในเดือน ธ.ค.นี้จะเริ่มออกพันธบัตรวงเงิน 4,000 ล้านบาท ส่วนพันธบัตรคืนความสุขที่ออกไป 3 หมื่นล้าน อายุ 7 และ 10 ปี จ่ายดอกเบี้ย 4.4-4.75% ขายให้ประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป ขายหมดแล้ว

ก่อนหน้านี้ นายคิม เอ็ง ตัน ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์อันดับเครดิตประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เอสแอนด์พี กล่าวว่า อันดับเครดิตไทยถูกจำกัดจากภาวะการเมืองที่ไม่แน่นอน และระดับรายได้ประชาชนที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเสถียรภาพทางการเมืองคือปัจจัยสำคัญที่คาดหวังจากไทย โดยเฉพาะการส่งผ่านนโยบายจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน ไปสู่รัฐบาลจากการเลือกตั้งชุดใหม่ได้อย่างราบรื่น

ทั้งนี้ จากการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนในด้านต่างๆ โดยเอสแอนด์พีเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ไทยมีจุดแข็ง 2 ด้าน คือ หนี้สาธารณะในระดับต่ำ และสภาพคล่องภายนอกกับฐานะการลงทุนระหว่างประเทศของไทย ขณะที่การประเมินด้านอื่นๆ เช่น โครงสร้างและการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับปานกลาง